รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
ข่าวสารจุฬาฯ
27 พฤษภาคม 2568
ข่าวเด่น, ความเป็นนานาชาติ
สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ ร่วมกับหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) จัดงาน Asia Forward Series ครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “Navigating a Fragmented World: Asia’s Role in the Changing Global Order” เมื่อวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568 ณ หอแสดงดนตรี อาคารศิลปวัฒนธรรม จุฬาฯ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้เฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสื่อสารเชิงวิชาการเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศในเอเชีย ตลอดจนพลวัตของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
งาน Asia Forward Series ครั้งที่ 3 มี ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ เป็นผู้กล่าวต้อนรับ รศ.ดร.ภาวิกา ศรีรัตนบัลล์ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ เป็นผู้กล่าวรายงาน โดยได้รับเกียรติจาก ศ.(พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายพิเศษในหัวข้อ “From Fragmentation to Cooperation : Rethinking Asia’s Strategic Role in the Future of Global Order”
การบรรยายพิเศษครั้งนี้ ศ. (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทยยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีความซับซ้อนและรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งสถาบันความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังเผชิญความท้าทายจากชาตินิยมที่เพิ่มขึ้น ความแตกแยกทางเศรษฐกิจ และการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ เอเชียควรจินตนาการถึงโลกในแบบที่ควรจะเป็น และร่วมกันนำพาไปสู่อนาคตนั้น
ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัย และอดีตนักการทูต ศ. (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์กล่าวในมุมมองของชาวเอเชียที่เชื่อมั่นในความเป็นเอกภาพระดับภูมิภาคและการนำอย่างมีหลักการ โดยเน้นย้ำว่าเอเชียมิใช่เป็นเพียงภูมิภาคของเศรษฐกิจที่เติบโตและประชากรวัยหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังเป็นคลังแห่งอารยธรรม ปรัชญา และหุ้นส่วนที่สามารถเสนอแบบจำลองใหม่แห่งการอยู่ร่วมกัน ความร่วมมือ และสันติภาพ
ศ. (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ได้กล่าวถึงระเบียบโลกที่ออกแบบขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันความขัดแย้งและส่งเสริมความก้าวหน้าผ่านองค์กรต่าง ๆ เช่น สหประชาชาติ ระบบ Bretton Woods และองค์การการค้าโลก (WTO) แต่ปัจจุบันระเบียบเหล่านี้กำลัง “เสื่อมสลาย” พหุภาคีนิยมถูกบดบังด้วยการดำเนินนโยบายแบบฝ่ายเดียว การทูตแบบผลประโยชน์ระยะสั้น และแนวคิดยุทธศาสตร์ที่ไม่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การแตกร้าวนี้เป็นโอกาสในการจินตนาการโครงสร้างใหม่ และเอเชียอยู่ในจุดที่สามารถเป็นผู้นำในการฟื้นฟูแนวคิดนานาชาติใหม่ได้
ประเด็นสำคัญของการบรรยายพิเศษในครั้งนี้ได้แก่ การเปลี่ยนมุมมองเรื่อง “อำนาจ” จากการเน้นแค่พลังทางทหารหรือเศรษฐกิจ ไปสู่ความสามารถในการเป็นเจ้าภาพ การสร้างความร่วมมือ และการฟื้นฟูความเชื่อใจ โดยได้หยิบยกบทเรียนจากการประชุมบันดุง ค.ศ. 1955 ที่ 29 ประเทศร่วมกันประกาศอธิปไตย ต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคม และเสนอทางเลือกนอกเหนือจากความขัดแย้งของสงครามเย็น โดยชูบทบาทของเอเชียและแอฟริกาในการกำหนดอนาคตของตนเอง
ศ. (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์เสนอว่า บทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของเอเชียควรตั้งอยู่บน 3 หลักการสำคัญ ได้แก่
1. Resilience (ความยืดหยุ่น)
การสร้างกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ เช่น โรคระบาด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ผ่านแนวทางเชิงบูรณาการที่ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่มีจริยธรรม รวมทั้งยังเน้นความยืดหยุ่นทางวัฒนธรรม ด้วยพลังของประวัติศาสตร์ คุณค่า ความผูกพันทางสังคม ภาษา และประเพณี
2. Solidarity (ความเป็นหนึ่งเดียวกัน)
เริ่มจากการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในภูมิภาคเอเชีย ระหว่างรัฐบาล ภาคประชาชน และเยาวชน โดยใช้เวทีความร่วมมือต่างๆ เช่น ASEAN, ACD, RCEP และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ควบคู่กับการยึดมั่นในหลักความเท่าเทียม ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ลดช่องว่างทางดิจิทัล และเสริมศักยภาพกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งขยายความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไปยังกลุ่มประเทศ Global South ผ่านการเรียนรู้ร่วมกัน และการหาทางออกโดยร่วมมือกัน
3. Multilateralism (พหุภาคีนิยม)
เอเชียควรเป็นผู้นำในการส่งเสริมพหุภาคีนิยมซึ่งจำเป็นต่อโลกที่แตกร้าว โดยต้องผลักดันการปฏิรูปสถาบันระหว่างประเทศ เช่น WTO และยกระดับมาตรฐานผ่านกรอบความร่วมมือในภูมิภาค โดยเน้นว่าพหุภาคีนิยมคือกรอบความคิดที่เชื่อว่า อนาคตที่มั่นคงจะเกิดขึ้นได้จากการร่วมมือกัน
ประเทศไทยถูกยกเป็นตัวอย่างของ “Middle Power” ที่เคยทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมในเวทีนานาชาติ โดยเฉพาะในกรอบความร่วมมือ ACD และความพยายามสร้างสันติภาพในภูมิภาค เช่น สถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งไทยสามารถมีบทบาทสำคัญได้จากความใกล้ชิดและความเข้าใจเชิงวัฒนธรรม
นายกสภามหาวิทยาลัยยังเน้นถึงความสำคัญของ “Global South” ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอนาคตของโลก โดยควรก้าวจากผู้รับกติกา (rule-takers) ไปสู่ผู้ร่วมสร้างกติกา (rule-makers) ผ่านการมีส่วนร่วมอย่างสมศักดิ์ศรีในการกำหนดอนาคตโลก โดยใช้หลักการร่วมรังสรรค์ มากกว่าการเผชิญหน้า
สุดท้าย ศ. (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ ย้ำว่า “ความไม่เป็นระเบียบ” ในปัจจุบันคือจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ และเอเชียมีโอกาสพิเศษในการกำหนดอนาคต คำถามสำคัญจึงไม่ใช่ว่าจะมีระเบียบโลกใหม่หรือไม่ แต่ใครจะเป็นผู้นำในการสร้างมันขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนที่ต้องมีบทบาทนำเอเชีย จึงควร “นำด้วยความหมาย ไม่ใช่อำนาจ” เดินหน้าด้วยความเชื่อมั่น ความร่วมมือ และความห่วงใยเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน
นอกจากนี้ในงานมีการเสวนาในหัวข้อ “Youth Participation in Rebuilding on the Global Order” มุ่งเน้นการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการทำความเข้าใจบทบาทและความท้าทายในระเบียบโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง โดยเน้นความมั่นคงในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนแนวทางที่เยาวชนสามารถมีบทบาทในการร่วมออกแบบอนาคต ทั้งในระดับนโยบาย เทคโนโลยี และคุณค่าเชิงอุดมการณ์ ผ่านมุมมองของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมเป็นพลังสำคัญในการสร้างระเบียบโลกใหม่อย่างยั่งยืน
รศ.ดร.ภาวิกา ศรีรัตนบัลล์ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ กล่าวถึงเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของงาน Asia Forward Series ว่ามุ่งสร้างสรรค์นโยบายที่เชื่อมโยงความรู้สู่สังคมในทุกพื้นที่ได้จริง งานนี้ไม่ใช่งานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่เป็น Policy Lab ที่สถาบันฯ ได้รับทุนสนับสนุนจาก บพท. โดยมีการจัดงานอย่างต่อเนื่องเพื่อผลิตองค์ความรู้ที่นำไปสู่การประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนพัฒนาพื้นที่เป้าหมายในประเทศไทย ซึ่งนโยบายนั้นได้มาจากความคิด วิสัยทัศน์และประสบการณ์ของผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญซึ่งสถาบันได้เชิญมาบรรยายพิเศษ งาน Asia Forward จึงเป็นพื้นที่ที่ทำให้เกิดเสียงที่เกี่ยวข้องกับประเด็นในเอเชียเพื่อนำไปเชื่อมโยงกับเสียงของเยาวชนที่มาร่วมเสวนา ซึ่งจะนำไปสู่นโยบายการพัฒนาเชิงพื้นที่ หลังจากการจัดงาน Asia Forward ทุกครั้งจะมีกระบวนการนำความรู้ วิสัยทัศน์และประสบการณ์จากผู้บรรยายพิเศษมาผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ ก่อนที่จะผลิตเป็น Policy ต่อไป
“Asia Forward มีเป้าหมายระยะยาวในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันเอเชียศึกษา และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งเป็นกลไกที่ช่วยส่งเสริมบทบาทของสถาบันเอเชียศึกษาในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การเป็นนานาชาติ ตามนโยบายของอธิการบดีจุฬาฯ” รศ.ดร.ภาวิกากล่าว
ในอนาคต สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ จะจัดงาน Asia Forward Series อีก 3 ครั้ง โดยเชิญบุคคลสำคัญระดับโลกมาร่วมงาน อาทิ นายนาเกช ซิงห์ เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย นายมาทีอัส คอร์มันน์ เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เป็นต้น
นายกสภาจุฬาฯ บรรยายหลักสูตรผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 26 ในหัวข้อ “สังคมและการเมืองโลก”
งาน “Research Masterpiece : Life with Biotech” กินหรู อยู่สบาย สไตล์ไทย ๆ ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ
เชิญชมนิทรรศการ “ศตวรรษาอานันทมหิดล 100 ปี ความยินดีแห่งแผ่นดิน”เฉลิมพระเกียรติครบรอบ 100 ปี วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
นิสิตบัญชี – วิศวฯ จุฬาฯ คว้ารางวัลเวที “True CyberSafe x TrueMoney Hackathon Thailand 2025”
สถาปัตย์ จุฬาฯ จัด “Urban Resilience Forum 2025” ขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองยืดหยุ่นและยั่งยืน นำร่องพัฒนาพื้นที่จุฬาฯ สร้างต้นแบบการพัฒนาเมือง
จุฬาฯ จัดพิธีปิดโครงการและมอบรางวัล Hackathon for Growth : AI Together เติบโตและเรียนรู้ AI ไปด้วยกัน
จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม
รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้