สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ ก้าวสู่เวทีโลก เป็นเจ้าภาพสำนักงานเลขาธิการ ARA ขับเคลื่อนงานวิจัยรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับโลก

               สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพสำนักงานเลขาธิการ Adaptation Research Alliance (ARA) ร่วมกับ Stockholm Environment Institute – Asia (SEI-Asia) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้รับเกียรติอันน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นของนานาชาติในบทบาทของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะศูนย์กลางทางวิชาการและนวัตกรรม รวมถึงการเป็นผู้นำด้านความร่วมมือในระดับภูมิภาคและระดับโลก

                Adaptation Research Alliance (ARA) เป็นเครือข่ายความร่วมมือระดับโลก ประกอบด้วยนักวิจัย ผู้ให้ทุน  ผู้กำหนดนโยบาย องค์กรพัฒนา และภาคประชาสังคมจากกว่า 40 ประเทศ โดยมีพันธกิจหลักในการเร่งรัดการวิจัยเชิงปฏิบัติที่ขับเคลื่อนด้วยความต้องการของผู้ใช้ เสริมสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ชุมชนที่เปราะบาง และพัฒนาแนวทางการปรับตัวที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

                รศ.ดร.อุ่นเรือน เล็กน้อย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ ในฐานะเลขาธิการของ ARA มีหน้าที่ในการดูแลบริหารจัดการ กำหนดทิศทางการทำงานเพื่อขับเคลื่อนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสนับสนุนงานวิจัยต่าง ๆ ของนักวิจัยทั่วโลกให้เกิดขึ้นได้จริง การได้รับเกียรติร่วมเป็นเจ้าภาพสำนักงานเลขาธิการ ARA จึงช่วยเสริมบทบาทของสถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ ในการมีพื้นที่ขับเคลื่อนการทำงานเพื่อโลก สามารถร่วมมือกับประชาคมโลกและนักวิจัยจากทั่วโลก เพื่อพัฒนางานวิจัยและแนวทางการปรับตัวที่ตอบโจทย์ทุกภูมิภาค โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเปราะบางสูง

                รศ.ดร.อุ่นเรือนกล่าวว่าการที่สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ เป็นเจ้าภาพสำนักงานเลขาธิการ ARA ร่วมกับ SEI-Asia ในครั้งนี้เป็นการตอบสนองยุทธศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “Chula Togetherness” จุฬาฯ เติบโตรอบทิศ มีนิสิตเป็นศูนย์กลาง โดย ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ ภายใต้การดำเนินงานใน 4 มิติ ได้แก่ International Growth: การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือข้ามพรมแดน Internal Growth: การสร้างระบบสนับสนุนเพื่อเร่งนวัตกรรม Impactful Growth: การผลักดันทุนวิจัยระดับนานาชาติ และ Integrated Growth: โดยการจัดตั้ง Chulalongkorn–ARA Global Hub ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และนวัตกรรมระดับโลกเพื่อให้นักวิจัยรุ่นใหม่และผู้ปฏิบัติการด้านการปรับตัวจากทั่วโลกได้พัฒนาทักษะ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และต่อยอดความร่วมมือทั้งในเชิงนโยบายและปฏิบัติการ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในระยะยาว อีกทั้งจะช่วยให้นิสิตจุฬาฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานกับหน่วยงานระดับโลกด้วย

                ในฐานะเลขาธิการร่วมของ ARA สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ มุ่งสร้างเครือข่ายระดับโลก ช่วยให้นักวิจัยและผู้ที่ต้องการให้ทุนเพื่อศึกษาวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้มาพบและเชื่องโยงการทำงานซึ่งกันและกัน สิ่งนี้จะช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและจัดตั้งศูนย์กลางระดับโลกด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ช่วยสร้างโอกาสในการพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่ และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกให้สามารถแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนานโยบายที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบอย่างยั่งยืน และช่วยขับเคลื่อนงานวิจัย ให้สามารถนำไปปรับใช้ในระดับชุมชนได้อย่างแท้จริง  

                “ระยะเวลา 3 ปีในการทำหน้าที่เป็นเลขาธิการของ ARA สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ จะเร่งขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มการระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการวิจัยด้านการปรับตัวทั้งในภูมิภาคเอเชียและระดับโลก ทำให้เกิดทุนวิจัยด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากยิ่งขึ้น และจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและองค์ความรู้เพื่อสนับสนุนการวิจัยเชิงปฏิบัติและนวัตกรรมที่สอดคล้องกับโมเดลของ ARA ทำให้ผลงานวิจัยสามารถนำไปใช้จริงและสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บทบาทของสถาบันวิจัยสังคมในการทำหน้าที่เลขาธิการของ ARA ไม่เพียงยกระดับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้เป็นผู้นำด้านวิชาการและนวัตกรรมในเวทีโลก แต่ยังสอดคล้องกับพันธกิจของ ARA ในการสร้างโลกที่ยืดหยุ่น ยั่งยืน และพร้อมเผชิญกับความท้าทายในอนาคต” รศ.ดร.อุ่นเรือน กล่าว

                สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ เป็นพันธมิตรที่ทำงานร่วมกับ Stockholm Environment Institute – Asia (SEI-Asia) มาอย่างยาวนาน มีการทำ MOU เพื่อร่วมมือกันทำงานในหลากหลายมิติ ดังนั้นการทำงานในหน้าที่เลขาธิการของ ARA ที่เป็นเจ้าภาพร่วมกันจึงเป็นการทำงานแบบไร้รอยต่อ โดย SEI-Asia จะทำงานเชิงนโยบายในระดับเอเชีย ในขณะที่สถาบันวิจัยทางสังคมจะมุ่งทำงานอย่างเข้มแข็งในระดับชุมชน ดังนั้นเมื่อเกิดการประสานความร่วมมือกัน พร้อมความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ ก็จะทำให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนในกลุ่มที่เปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้

                “ความท้าทายในการทำงานของสถาบันฯ คือการเร่งระดมทุนในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวน และต้องสร้างการเชื่อมต่อกับนักวิจัยในเครือข่ายนับพันราย หากสถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ สามารถดำเนินการได้สำเร็จก็จะช่วยสร้างความร่วมมือและเกิดกระบวนการแก้ปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้” รศ.ดร.อุ่นเรือน กล่าวเสริม

                ทั้งนี้ สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ ยังได้ขับเคลื่อนนวัตกรรมทางสังคม (Social Innovation) และการทำงานในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อแก้ปัญหาสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คน ผ่านการทำงานรูปแบบต่าง ๆ โดยจะจัดการประชุมวิชาการนานาชาติในหัวข้อ “Global Leadership in Social Business Innovation (GLSBI 2025)” ระหว่างวันที่ 28 – 29 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ การประชุมนานาชาติครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรนานาชาติ ได้แก่ Yunus Centre นำโดย ศ.มูฮัมหมัด ยูนุส (His Excellency Professor Muhammad Yunus) ประธานคณะที่ปรึกษารัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปี 2549 ร่วมด้วยสภาวิจัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์แห่งแคนาดา (The Social Sciences and Humanities Research Council of Canada) สถาบันสิ่งแวดล้อมสตอกโฮล์ม (Stockholm Environment Institute) และมูลนิธิยูนุสประเทศไทย (Yunus Thailand) เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากนักวิจัยด้านสังคมทั่วโลกจากประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศกำลังพัฒนา ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายเครือข่ายความร่วมมือ สร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เชื่อมโยงภาควิชาการ ภาคธุรกิจ และภาคนโยบาย เพื่อผลักดันการขับเคลื่อนสังคมให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

• Facebook
• Twitter
• Line