รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
ข่าวสารจุฬาฯ
23 กันยายน 2568
ข่าวเด่น, ภาพข่าว
หลักสูตรเวฬา หรือ VELA (Vitality Enhancement & Longevity Academy) รุ่นที่ 3 เดินทางมาถึงบทสรุปอย่างสมบูรณ์ มุ่งมั่นสร้างเครือข่ายผู้นำด้านสุขภาพที่มีองค์ความรู้รอบด้าน ตอบโจทย์สังคมสูงวัย (Aging Society)ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศไทยและระดับโลก
นับตั้งแต่รุ่นแรกถึงปัจจุบัน หลักสูตร VELA ได้ผลิตผู้บริหารประมาณ 300 ท่าน ที่พร้อมเผชิญความท้าทายด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต สำหรับรุ่นที่ 3 นี้ มีผู้เข้าอบรมจำนวน 108 ท่าน ที่ได้เรียนรู้อย่างเข้มข้น ครอบคลุมกว่า 16 หัวข้อ ตั้งแต่เทรนด์สุขภาพและนวัตกรรมทางการแพทย์ การแพทย์แม่นยำและเวชศาสตร์ฟื้นฟู สุขภาวะกาย-ใจ-จิตวิญญาณ เวชศาสตร์ชะลอวัย ไปจนถึงการเงินและการจัดการสุขภาพในองค์กร
เพื่อเชื่อมโยงความรู้สู่การปฏิบัติจริง ผู้เข้าอบรมได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่ Wellness We Care Center จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 โดยได้รับฟังการบรรยายหัวข้อ “Spiritual Wellness” จาก นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ถ่ายทอดแนวทางการดูแลสุขภาวะทางจิตวิญญาณควบคู่กับกายและใจ เพื่อการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพ พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่เรียนรู้กิจกรรมของศูนย์อย่างใกล้ชิด ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ช่วยต่อยอดองค์ความรู้ด้านสุขภาพแบบองค์รวมได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้หลักสูตรยังได้ต้อนรับ Specialist จากต่างประเทศ ที่บินตรงจากเดนมาร์กเพื่อแบ่งปันองค์ความรู้ด้านการแพทย์และการยืดอายุชีวิต เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ในหัวข้อ “Longevity Medicine” โดย Assoc. Prof. Dr. Morten Scheibye Knudsen จาก University of Copenhagen และ Dr. Alberto De Maria, Chief Scientific Officer (CSO) จาก BioHalo ApS ถ่ายทอดความก้าวหน้าทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์เพื่อการแก่ช้า อายุยืนอย่างมีคุณภาพ พร้อมด้วยการบรรยายหัวข้อ “Cell Therapy & ATMPs in Thailand” โดย Dr. Lilly Marie Blecher จาก SOMA Health ร่วมกับ ศ.ดร.นพ.วิปร วิประกษิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ช่วยเปิดมุมมองด้านนวัตกรรมการแพทย์ระดับนานาชาติสู่การพัฒนาของไทย
อีกหนึ่งไฮไลต์คือการเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 16–22 มิถุนายน 2568 โดยคณะได้เยี่ยมชมบริษัทชั้นนำด้านสเต็มเซลล์และเซลล์บำบัด เช่น Reprocell และ GC Lymphotec ตลอดจนเข้าร่วมสัมมนากับมหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Tokyo) ในหัวข้อ “Monozukuri” ที่สะท้อนถึงนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตและการยืดอายุในสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่เมืองโอซาก้า ผู้เข้าอบรมยังได้เข้าชมงาน World Expo 2025 สัมผัสนวัตกรรมระดับโลกและเยี่ยมชม Thai Pavilion ที่นำเสนอศักยภาพด้านการแพทย์ของไทย รวมถึงประเทศต่างๆ ที่จัดแสดงภายในงาน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์และสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าอบรมอย่างอบอุ่น
ปิดท้ายด้วยประสบการณ์อันทรงคุณค่าและถือเป็นโอกาสสุด Exclusive ของผู้เข้าอบรม VELA รุ่นที่ 3 คือการได้เข้าศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ผู้เข้าอบรมได้สัมผัสกับงานนวัตกรรมการแพทย์แนวหน้าของประเทศอย่างใกล้ชิด ผ่านการเยี่ยมชม 4 ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ได้แก่ ศูนย์ฝึกสมอง (Cognitive Fitness Center) ที่มุ่งพัฒนาสมรรถนะทางปัญญาสำหรับผู้สูงวัย ศูนย์โปรตอนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นต้นแบบการรักษามะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอนแห่งแรกของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ศูนย์ผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) ที่มุ่งพัฒนาและต่อยอดวิศวกรรมเนื้อเยื่อเพื่อการรักษาผู้ป่วย และศูนย์ภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง (Cancer Immunotherapy) ที่ร่วมมือกับสถาบัน M.D. Anderson Cancer Center แห่งสหรัฐอเมริกาในการพัฒนาการรักษาเชิงลึกสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
นอกจากนี้ ผู้เข้าอบรมยังได้รับฟังการบรรยายจากคณาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ นำโดย รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ ในหัวข้อ “The Future of HealthTech for Longevity” ศ.นพ.รังสรรค์ ฤกษ์นิมิตร ผู้ช่วยอธิการบดีด้านนวัตกรรม จุฬาฯ ในหัวข้อ “Medical Innovation for Elderly” และ ศ.ดร.พญ.ณัฏฐิยา หิรัญกาญจน์ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง ในหัวข้อ “Cancer Immunotherapy Excellence Center” การเรียนรู้นอกห้องเรียนครั้งนี้ไม่เพียงต่อยอดองค์ความรู้จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ แต่ยังทำให้ผู้เข้าอบรมได้เห็นศักยภาพการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ไทยในระดับสากลอย่างแท้จริง
เส้นทางการเรียนรู้ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาได้ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เข้าอบรม โดยมีการนำเสนอ Capstone Project ที่เปิดเวทีให้ผู้เข้าอบรมระดมความคิดและต่อยอดเป็นโครงการนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง โดยปีนี้มี 3 โครงการที่ได้รับรางวัล ได้แก่
– Wolffy ไข่ผำจิ๋ว – โปรตีนแห่งอนาคตเพื่อแก้ปัญหาทุพโภชนาการในเยาวชน
– CoCoon 100 – การดูแลสุขภาพภายใน 100 วัน ด้วย AI Health Companion
– Zirtu-M – ผลิตภัณฑ์สกินแคร์จากเปลือกมะม่วง เพื่อชะลอความเสื่อมของเซลล์
โครงการเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของผู้เข้าอบรม แต่ยังตอกย้ำว่า VELA คือพื้นที่แห่งการสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคมสุขภาพดี และเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Medical Hub อย่างยั่งยืน
นอกจากการเรียนรู้เชิงวิชาการและการศึกษาดูงานแล้ว หลักสูตร VELA ยังให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ผ่านกิจกรรม Networking ที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงผู้เข้าอบรมให้รู้จักและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมากขึ้น ภายในแต่ละสัปดาห์มีกิจกรรมสร้าสรรค์ที่ผู้เข้าอบรมในแต่ละกลุ่มหมุนเวียนกันจัดขึ้น เพื่อสร้างรอยยิ้ม ความสุข และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงทำให้ผู้เรียนได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ แต่ยังช่วยก่อร่างมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและเครือข่ายผู้นำที่พร้อมจะสนับสนุนกันและกันทั้งในระดับวิชาชีพและสังคม
หลักสูตรเวฬา รุ่นที่ 3 จึงไม่เพียงปิดฉากด้วยความสำเร็จ แต่ยังตอกย้ำบทบาทของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกรมอนามัย รวมถึงหน่วยงานปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็นบัณฑิตวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาฯ และ บริษัท ดีกรีพลัส จำกัด ในการพัฒนาผู้นำด้านสุขภาพที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง ทั้งในระดับบุคคล องค์กร และสังคม เกิดเป็นเครือข่ายผู้นำที่ตระหนักถึงคุณค่าของสุขภาพและคุณภาพชีวิต พร้อมขับเคลื่อนไทยสู่สังคมสูงวัยที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน และสำหรับผู้ที่มองหาพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่ผสานวิชาการเข้ากับการลงมือปฏิบัติจริง VELA คือเวทีที่จะเปิดโอกาสให้คุณก้าวสู่การเป็นผู้นำที่พร้อมรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพในศตวรรษใหม่อย่างยั่งยืน
จุฬาฯ – สยามพิวรรธน์ และพันธมิตร ประกาศความสำเร็จหลักสูตร“WORLD CLASS DESTINATION DEVELOPMENT”ต้นแบบการเรียนรู้ ยกระดับบุคลากรไทยสู่มาตรฐานสากล
นิสิตปริญญาเอก CU TIP พัฒนา “หนังสังเคราะห์จากกากกาแฟ”คว้าเหรียญเงินนวัตกรรมนานาชาติเจนีวา ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เชิญชวนคณาจารย์จุฬาฯ รับสมัครหรือเสนอชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม สมาชิกสภาคณาจารย์ จุฬาฯ พ.ศ. 2568 แทนตำแหน่งที่ว่าง
20 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00 น. – 24 ตุลาคม 2568 เวลา 17.00 น.
จุฬาฯ เปิดรับสมัคร “นักข่าวพันธมิตร” จากทั่วโลกร่วม Chula Media Fellowship Program 2026 พร้อมรับทุนสนับสนุน
ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาฯ ส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงกบนา ผลลัพธ์เกินคาดได้กบน้ำหนัก 8 ขีดใน 4 เดือน สร้างรายได้ยั่งยืนให้ชุมชน
PMCU จับมือกว่า 40 แบรนด์ดัง จัดงาน “PMCU CAREERS CONNECT” เชื่อมโยงการเรียนรู้สู่ประสบการณ์ทำงานจริง
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้ ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้
ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้