รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
ข่าวสารจุฬาฯ
17 ตุลาคม 2568
ข่าวเด่น, ความภูมิใจของจุฬาฯ, งานวิจัยและนวัตกรรม
ปิ่นรัฐ ปิ่นเวหา นิสิตปริญญาเอก หลักสูตรสหสาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมผู้ประกอบการ (CU TIP) บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปลี่ยนความชอบส่วนตัวในการดื่มกาแฟให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจจากการวิจัยพัฒนา “หนังสังเคราะห์จากกากกาแฟ” ซึ่งคว้ารางวัลเหรียญเงินจากเวทีการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ “The 50th International Exhibition of Inventions Geneva” ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมรางวัลพิเศษจากมหาวิทยาลัยในซาอุดิอาระเบียปิ่นรัฐ เผยถึงที่มาของนวัตกรรม “หนังสังเคราะห์จากกากกาแฟ” ว่าเกิดจากการที่ตนเป็นนักดื่มกาแฟตัวยง สังเกตได้ว่าเมื่อเราดื่มกาแฟทุกวัน กากกาแฟจำนวนมากจะถูกทิ้งโดยไม่มีการจัดการที่ยั่งยืน แม้จะมีการนำไปใช้เป็นปุ๋ยหรือวัสดุขัดผิว แต่การใช้งานเหล่านี้ไม่ได้เพิ่มมูลค่าให้กับกากกาแฟอย่างแท้จริง นวัตกรรมนี้จึงเกิดขึ้นซึ่งเป็นการผสมระหว่างกากกาแฟกับยางธรรมชาติของไทย ได้เป็นวัสดุยางคอมโพสิตซึ่งมีสมบัติใกล้เคียงกับหนังแท้
ปิ่นรัฐ อธิบายว่า การเลือกใช้ยางธรรมชาติเพราะเป็นพืชเศรษฐกิจของไทย จึงต้องการพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และเมื่อนำมาผสมกับกากกาแฟ จะได้วัสดุที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงหนังแท้ แต่ราคาถูกกว่าหนังสัตว์ถึงครึ่งหนึ่ง สำหรับกระบวนการผลิตหนังสังเคราะห์จากกากกาแฟดังกล่าวไม่ได้มีความซับซ้อน เพียงแค่นำกากกาแฟที่เก็บได้มาผสมร่วมกับยางคอมโพสิตตามสูตร การบวนการทั้งหมดใช้เวลาสั้น และได้แผ่นหนังสังเคราะห์ที่พร้อมใช้งาน ปัจจุบันสามารถผลิตหนังสังเคราะห์ได้ในขนาด 1 x 1 ตารางเมตร และสามารถปรับขนาดหนาบาง ผิวหน้า ลายหนังตามความต้องการได้ปิ่นรัฐ เผยถึงความโดดเด่นของนวัตกรรมนี้คือเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยหนังสัตว์นั้นแม้จะเป็นผลพลอยได้จากการบริโภคเนื้อสัตว์ แต่ต้องใช้สารเคมีจำนวนมากในการฟอกหนัง และเมื่อคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ทั้งหมด ตั้งแต่การเลี้ยงสัตว์ การใช้พื้นที่ปลูกพืชเป็นอาหารสัตว์ การใช้ยาปฏิชีวนะ จนถึงกระบวนการฟอกหนัง หนังสัตว์จึงมีค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่สูงมาก ส่วนหนังสังเคราะห์ทั่วไปในท้องตลาด เช่น PU (โพลียูรีเทน) หรือ PVC (โพลีไวนิลคลอไรด์) เป็นโพลิเมอร์ที่ต้องกลั่นจากน้ำมัน เป็น Fossil-based เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งแล้วจะเกิดการเสื่อมสภาพและเป็นวัตถุที่ย่อยสลายได้ยาก โดยใช้เวลาในการย่อยสลายนานเป็นร้อยปี และจะเกิดไมโครพลาสติกที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่หนังสังเคราะห์จากกากกาแฟนั้น จากการคำนวณผลคาร์บอนฟุตพริ้นท์พบว่ามีค่าน้อยกว่าวัสดุเดิมอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเมื่อถูกฝังกลบ ขณะนี้หนังสังเคราะห์จากกากกาแฟอยู่ระหว่างการทดสอบคุณสมบัติของไบโอดีเกรดเดเบิล (Biodegradable) ซึ่งเป็นความสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติด้วยจุลินทรีย์และสลายตัวกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ และชีวมวล โดยไม่ทิ้งสารพิษหรือไมโครพลาสติกที่เป็นอันตรายในสภาพแวดล้อม
“หนังสังเคราะห์จากกากกาแฟมีลักษณะนิ่มเหมือนหนังแท้ ส่วนเรื่องกลิ่นนั้นขึ้นอยู่กับการรับรู้ของแต่ละคน บางคนดมได้กลิ่นกาแฟ บางคนก็อาจได้กลิ่นยาง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวิจัยเพื่อปรับปรุงหนังสังเคราะห์ให้มีกลิ่นกาแฟที่ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น สำหรับอายุการใช้งานนั้น ตัวอย่างต้นแบบที่ผลิตตั้งแต่เริ่มการวิจัยจนถึงปัจจุบัน ผ่านระยะเวลามาแล้วกว่า 3 ปี หนังสังเคราะห์จากกากกาแฟก็ยังคงรูปเดิมและใช้งานได้ดี จึงแสดงให้เห็นถึงความทนทานที่เทียบเท่าหนังทั่วไป” ปิ่นรัฐ อธิบายถึงคุณภาพและอายุการใช้งาน
ปัจจุบันหนังสังเคราะห์จากกากกาแฟถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น กระเป๋า เข็มขัด พวงกุญแจ และสินค้าพรีเมียมตามโรงแรมและร้านกาแฟ ราคาแผ่นหนังขนาด 1 ตารางเมตรถูกกว่าหนังสัตว์ประมาณครึ่งหนึ่ง โดยหนังสัตว์ราคาประมาณ 2,000 บาทต่อตารางเมตร ที่น่าสนใจคือมีผู้ประกอบการโรงแรมติดต่อเข้ามาเพื่อให้นำกากกาแฟจากโรงแรมไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบ เพื่อนำไปจำหน่ายเป็นของที่ระลึกในโรงแรม เช่น จานรองแก้ว ซึ่งเป็นการสร้างวงจรเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สมบูรณ์แบบ ปัจจุบันการผลิตยังอยู่ในรูปแบบ OEM (จ้างผลิต) โดยจะใช้โรงงานในชุมชนที่มีอุปกรณ์ทำยางอยู่แล้วผลิตวัสดุหนังจากกากกาแฟ
การได้รับรางวัลเหรียญเงินจากงานประดิษฐ์และนวัตกรรมที่กรุงเจนีวาถือเป็นการยืนยันคุณภาพของนวัตกรรมหนังสังเคราะห์จากกากกาแฟนี้ในเวทีโลก ซึ่งได้รับความสนใจจากคณะกรรมการที่บูธแสดงผลงาน นอกเหนือจากรางวัลเหรียญเงินเแล้ว ยังได้รับรางวัลพิเศษจากมหาวิทยาลัยในซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากนวัตกรรมนี้มีจุดเด่นที่ชัดเจนในเรื่องการคำนวณคาร์บอนฟุตปริ้นท์ซึ่งเกิดน้อยกว่าวัสดุเดิมอย่างมีนัยสำคัญ“สำหรับแผนการพัฒนาในอนาคต จะมีการขยายธุรกิจในรูปแบบความร่วมมือกับชุมชน โดยเก็บขยะกากกาแฟจากชุมชนมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ให้ชุมชนนำไปขายหรือใช้งาน รวมถึงการขาย Know-how ให้กับชุมชนอื่น ๆ เพื่อให้สามารถ รีไซเคิลกากกาแฟในระบบของตนเองได้ ซึ่งจากกระบวนการผลิตหนังสังเคราะห์ที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีสูง และชุมชนมีการทำยางอยู่แล้วก็สามารถดำเนินการได้ทันที” ปิ่นรัฐ กล่าวถึงศักยภาพความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจนวัตกรรมนี้เกิดขึ้นได้จากการเรียนรู้ในหลักสูตร CU TIP ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นการพัฒนางานวิจัยไปสู่การสร้างธุรกิจจริง โดยเนื้อหาหลักสูตรจะมีทั้งวิชาเกี่ยวกับธุรกิจ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ความรู้เรื่องสิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญา ฯลฯ เพื่อให้นิสิตสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง“นวัตกรรมหนังสังเคราะห์จากกากกาแฟไม่เพียงแต่แก้ปัญหาขยะและลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์เท่านั้น แต่ยังสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือทิ้ง เพิ่มมูลค่าให้ยางธรรมชาติไทย และเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อม การพัฒนาวัสดุใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เราสามารถเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นทรัพยากรที่มีมูลค่า และสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับการดูแลโลกของเราได้จริง จากแก้วกาแฟที่เราดื่มทุกวัน แต่วันนี้กากที่เหลือจากการชงไม่ใช่แค่ขยะอีกต่อไป แต่เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์คุณภาพที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสังคมไทยและโลก” ปิ่นรัฐ กล่าวทิ้งท้าย
ขอเชิญชาวจุฬาฯ ร่วมลงนามแสดงความไว้อาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
จุฬาฯ อันดับ 1 มหาวิทยาลัยไทยเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน การจัดอันดับโดย QS Asia University Rankings 2026
นายกสภาจุฬาฯ หารือความร่วมมือจุฬาฯ – Nestle เปิดหลักสูตร Non-Degree เรื่อง Sustainability Management
เชิญฟังเสวนาเรื่อง “ถอดบทเรียนราคาแพง สู่มาตรฐานและความยั่งยืนของภูมิปัญญาและสมุนไพรไทย”
11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18.30-19.30 น. Facebook Live : Faculty of Pharmaceutical Sciences, Chulalongkorn University
นิสิตปริญญาเอก CU TIP จุฬาฯ คว้ารางวัล Gold Medal งานประกวดสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมระดับนานาชาติ ICSEM 2025 ที่มาเลเซีย
จุฬาฯ ต้อนรับผู้บริหารกรมควบคุมมลพิษและสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ศึกษาดูงานด้านการจัดการขยะอย่างยั่งยืน
จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม
รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้