ข่าวสารจุฬาฯ

เภสัชฯ จุฬาฯ แนะวิธีซื้อและใช้ “ฟ้าทะลายโจร” เพื่อคุณภาพความปลอดภัยในภาวะวิกฤต

จากการเสวนาหัวข้อ “ฟังให้ชัดกับการเลือกซื้อฟ้าทะลายโจรในสภาวะวิกฤต ในประเด็น ราคา คุณภาพ และความปลอดภัย”  ซึ่งคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 วิทยากรในการเสวนาได้เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและการนำไปใช้อย่างเหมาะสมปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้มีการนำฟ้าทะลายโจรให้อยู่ในแผนการดูแลผู้ป่วย COVID-19

ในมุมของสภาองค์กรของผู้บริโภค คุณสารี อ่องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ชี้ให้เห็นถึงปัญหาการจำหน่ายฟ้าทะลายโจรในราคาที่สูงมากอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งพบได้ทั่วไปรวมทั้งใน platform ออนไลน์ อีกทั้งยังพบการจำหน่ายฟ้าทะลายโจรปลอมและการสวมทะเบียนผลิตภัณฑ์อื่น ทั้งนี้สภาองค์กรฯ พยายามจะประสานไปยังผู้เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ แต่ก็ยังไม่ได้รับการประสานงานอย่างจริงจัง

รศ.ภญ.ดร.มยุรี ตั้งเกียรติกำจาย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่าปัจจุบันไม่มีการวิจัยยืนยันว่าฟ้าทะลายโจรสามารถใช้ในการป้องกันโรค COVID-19 จึงไม่แนะนำให้ใช้ในการป้องกัน เพราะพบว่าหลายคนใช้ในขนาดต่ำๆ เป็นระยะเวลานาน แล้วพบว่าค่าเอนไซม์ Enzyme บางชนิดในตับสูงขึ้น มีการอ้างถึงในกรณีของการใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วย COVID-19  ของ นพ.อเนก มุ่งอ้อมกลาง ในเรือนจำกลางของ กทม.มีการใช้ผงฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) 144 มิลลิกรัม/วัน แบ่งให้วันละ 3 ครั้ง ในกรณีที่เราไม่ทราบปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ที่แน่นอน อาจอ้างอิงการใช้จากบัญชียาหลักแห่งชาติ ในการรักษาไข้หวัด ซึ่งแนะนำว่าสามารถใช้ได้สูงสุดสำหรับผู้ใหญ่ ครั้งละ 3 กรัม วันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน

ทั้งนี้ กรมการแพทย์มีแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิดในกลุ่มสีเขียว ที่ไม่มีอาการ โดยให้การใช้ฟ้าทะลายโจร 180 มิลลิกรัม/วัน แบ่งให้ 3 ครั้ง (มื้อละ 60 มิลลิกรัม) ซึ่งควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ ซึ่งในปัจจุบัน กรณีที่ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) จะห้ามใช้คู่กับฟ้าทะลายโจร ดังนั้นการใช้ฟ้าทะลายโจรจะต้องมีการติดตามประสิทธิผล รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจะเกิดขึ้น เบื้องต้นรับประทานติดต่อกัน 5 วัน หากอาการไม่ดีขึ้น ถ้าไม่มีความเสี่ยงเรื่องตับ อาจจะรับประทานต่อได้ แต่ควรจะไม่เกิน 14  วัน

รศ.ภญ.ดร.มยุรี แนะนำว่าหากนำใบฟ้าทะลายโจรมาใช้ ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรแนะนำให้ใช้ใบฟ้าทะลายโจรจากต้นที่เริ่มออกดอกแล้ว ซึ่งในใบจะมีแอนโดรกราโฟไลด์สูงสุด โดยรับประทานครั้งละ 5-10 ใบ วันละ 3-4 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ควรรีบติดต่อเพื่อหายาฟาวิพิราเวียร์ นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังเรื่องยาตีกันจากการใช้ฟ้าทะลายโจร ดังนั้นจึงควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรหากต้องรับประทานติดต่อกันเป็นหลายวัน สำหรับในเด็ก 4-11 ปี  มีข้อแนะนำให้ใช้  สารแอนโดรกราโฟไลด์ 30 มิลลิกรัม/วัน แบ่งให้วันละ 3-4 ครั้ง รับประทานไม่เกิน 5 วัน

ผศ.ภญ.ดร.สุนทรี ชัยสัมฤทธิ์โชค คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวเสริมเรื่องการดูฉลากยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพราะบางฉลากไม่มีการพูดถึงข้อมูลปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ บางฉลาก รวมถึงข้อมูลในแผ่นพับหรือตาม social media มีข้อมูลที่สร้างความเข้าใจผิด จงใจหลอกหลวง ในบางครั้ง อาจจะเกิดจากความไม่รู้หรือข้อมูลที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอของผู้ผลิตเอง ผู้บริโภคอาจจะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์องค์กรที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ปัจจุบันมียาปลอมเกิดขึ้น โดยฟ้าทะลายโจรจะต้องเป็นยากลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีเลขทะเบียน G ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบชื่อการค้า รวมถึงข้อมูลต่างๆของผลิตภัณฑ์เบื้องต้นจากเว็บไซต์ของ อย. ได้ โดยไปที่ Google เพื่อค้นหา “ตรวจสอบเลข อย.” จะพบเว็บไซต์อันดับต้นๆ ที่เขียนว่า ระบบตรวจสอบการอนุญาต – กระทรวงสาธารณสุข ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้

ผศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ และ รศ.ภก.ดร.วรสิทธิ์ วงศ์สุทธิเลิศ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ  ย้ำว่าคุณภาพของฟ้าทะลายโจรไม่ได้จบแค่ปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ ซึ่งต้องใช้วิธีวิเคราะห์ที่มีความถูกต้องในการทดสอบปริมาณสารดังกล่าวในฟ้าทะลายโจร รวมถึงการควบคุมคุณภาพในแง่มุมอื่นๆ เช่น เวลาที่ใช้   ในการแตกกระจายตัวของยา ความแตกต่างจากน้ำหนักเฉลี่ย ปริมาณการปนเปื้อนของโลหะหนัก ปริมาณการตกค้างของตัวทำละลายที่ใช้สกัดในกรณีที่ใช้ตัวทำละลายในการสกัด  และการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร อีกทั้งหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข ควรให้ความสำคัญและสนับสนุนเรื่องคุณภาพและคุ้มครองผู้บริโภคในการใช้ผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรแก่ประชาชน

จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม

รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า