อธิการบดีจุฬาฯ ชี้อนาคตการศึกษาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ความท้าทายของสถาบันอุดมศึกษาที่จะต้องปรับบทบาทใหม่

ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นวิทยากรพิเศษในหัวข้อ “Revolutionizing Learning: The AI-Powered Future of Education” ในโครงการสัมมนา “ก้าวข้ามโอกาสและความเสี่ยง: แบ่งปันประสบการณ์สู่การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของมหาวิทยาลัยในยุค AI” ซึ่งจัดโดยศูนย์บริหารความเสี่ยง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันคลังสมองของชาติและมหาวิทยาลัยเครือข่าย Digital University เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดี เสริมสร้างความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยี พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ และส่งเสริมวัฒนธรรมความเสี่ยงในมหาวิทยาลัยภายใต้บริบทยุค AI เพื่อเตรียมพร้อมมหาวิทยาลัยไทยสู่การเป็นผู้นำด้าน AI ในภูมิภาค โดยมี ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล
ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นผู้กล่าวเปิดงาน

ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ ได้กล่าวถึงการปฏิวัติการเรียนรู้: อนาคตแห่งการศึกษาซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI นับเป็นความท้าทายและแนวทางใหม่ของอุดมศึกษา ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เข้ามามีบทบาทสำคัญ มหาวิทยาลัยไม่สามารถจำกัดบทบาทของตนเพียงแค่การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ผู้เรียนอีกต่อไป เพราะ AI ได้เปิดโอกาสให้ข้อมูลและองค์ความรู้เข้าถึงได้อย่างไร้ขีดจำกัด ดังนั้นสถาบันอุดมศึกษาต้องปรับบทบาทของตนเองให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เน้น “การสร้างประสบการณ์การเรียนรู้” ที่สามารถตอบโจทย์อนาคต โดยมุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง (Experiential Learning) การบูรณาการข้ามศาสตร์ (Interdisciplinary) และการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตที่หลากหลาย
- การสร้างเส้นทางการเรียนรู้เฉพาะบุคคล: จุดเริ่มต้นจากความอยากรู้
AI ทำให้การประเมินศักยภาพของผู้เรียนสามารถเจาะลึกในระดับปัจเจกบุคคลมากขึ้น สิ่งนี้เปิดโอกาสให้สถาบันการศึกษาสร้าง เส้นทางการเรียนรู้เฉพาะบุคคล (Personalized Learning Pathways) โดยการสังเกต “ความอยากรู้” หรือความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งของนิสิตนักศึกษา ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการค้นพบพรสวรรค์และศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง มหาวิทยาลัยจึงต้องกระตุ้นและเปิดพื้นที่ให้ผู้เรียนได้ ทดลอง ค้นหา และตั้งคำถาม ผ่านการสร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย - บทบาทใหม่ของคณาจารย์: จากผู้สอนสู่ “ผู้อำนวยความสะดวกทางปัญญา”
บทบาทของคณาจารย์ต้องเปลี่ยนจาก “ผู้ถ่ายทอดความรู้” มาเป็น “ผู้อำนวยความสะดวกทางปัญญา (Facilitators)” โดยมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นความคิด การสร้างโจทย์ปัญหาที่ท้าทาย และการผลักดันให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เชิงลึก การเชื่อมโยงความรู้ รวมถึงการนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้จริงในสถานการณ์ต่าง ๆ คณาจารย์จึงต้องมีทักษะในการสังเกตและเข้าใจนักศึกษาในฐานะบุคคลที่มีความสนใจและศักยภาพเฉพาะตัว - การบูรณาการทักษะชีวิตกับเทคโนโลยี
โลกยุค AI ต้องการบุคลากรที่ไม่เพียงมีทักษะทางเทคโนโลยี เช่น AI และ Big Data แต่ยังต้องมีทักษะชีวิต (Life Skills) ที่สำคัญ เช่น การคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking) การคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability) การแก้ไขปัญหา และคุณธรรมจริยธรรม สถาบันอุดมศึกษาต้องเป็นพื้นที่ในการบ่มเพาะทักษะเหล่านี้ควบคู่กับการเรียนรู้เทคโนโลยี เพื่อให้บัณฑิตพร้อมเผชิญกับโลกที่มีความผันผวนสูง - คุณค่าใหม่ของสถาบันอุดมศึกษาในยุค AI
แม้ว่าจะมีข้อถกเถียงว่าปริญญายังจำเป็นหรือไม่ในโลกยุคใหม่ แต่สถาบันอุดมศึกษายังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้าง “คนที่มีคุณภาพ” ผ่านการบูรณาการความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะชีวิต โดยให้ความสำคัญกับการช่วยนิสิตค้นหาตัวเอง พัฒนาพรสวรรค์ และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ เพื่อให้เกิดมุมมองที่หลากหลายในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนของโลกอนาคต
Chulalongkorn: The University of AI การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI ไม่ได้เป็นเพียงการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ แต่คือการพลิกโฉมรูปแบบการเรียนรู้ สู่การบูรณาการ ความสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง เพื่อสร้างบัณฑิตที่มีศักยภาพหลากมิติ พร้อมด้วยความรู้ ทักษะ และจริยธรรมในการนำพาตนเองและสังคมไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมุ่งสู่การเป็น “: The University of AI” พื้นที่แห่งการบ่มเพาะศักยภาพนิสิตนักศึกษา ผ่านการสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นความอยากรู้ เปิดโอกาสให้ได้ค้นพบตนเอง และเสริมสร้างทักษะที่ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
“ความอยากรู้และการค้นหาตัวตน คือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ที่ยั่งยืน และเป็นสะพานสู่อนาคตที่ทุกคนสามารถก้าวข้ามความเสี่ยงสู่ความสำเร็จได้” อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวทิ้งท้าย

จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม
รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย