รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
ข่าวสารจุฬาฯ
4 มีนาคม 2568
ข่าวเด่น
ผู้เขียน คณาจารย์ศศินทร์ จุฬาฯ
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็นสงครามที่ปะทุขึ้นในหลายมุมของโลก เช่น รัสเซีย-ยูเครน ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบให้ราคาน้ำมันและสินค้าทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น รวมถึงวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น โควิด-19 ที่ทำให้สินค้าขาดแคลน ราคาสูงขึ้น และการจัดส่งล่าช้า ไม่เพียงเท่านั้น สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ยังกระทบการค้าระหว่างประเทศและเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก แถมการมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก็เปลี่ยนโฉมการทำงานในหลายอุตสาหกรรมจนทำให้หลายคนกังวลเรื่องการตกงาน
แล้วธุรกิจจะอยู่รอดและเติบโตในยุคแห่งความไม่แน่นอนเช่นนี้ได้อย่างไร? การที่ธุรกิจมี “สินทรัพย์อเนกประสงค์” หรือทรัพย์สินที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลายรูปแบบเป็นหนึ่งในคำตอบที่สำคัญสำหรับการอยู่รอดในยุคที่มีความผันผวนสูง ธุรกิจที่สามารถปรับเปลี่ยนทรัพยากรที่มีอยู่ให้เข้ากับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจะสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโตได้ดีกว่าธุรกิจที่ขาดความยืดหยุ่น ลองนึกถึงตัวอย่างช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ร้านอาหารบางแห่งที่มีพื้นที่กว้างสามารถปรับเป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซในช่วงกลางวัน หรือโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่เปลี่ยนสายการผลิตมาทำหน้ากากอนามัย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะความยืดหยุ่นในการใช้ทรัพยากร ซึ่งช่วยให้พวกเขายังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ต่างจากร้านหรือโรงงานที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย นอกจากรอให้สถานการณ์ดีขึ้น
เช่นเดียวกับการเลือกซื้อมือถือที่อัพเกรดซอฟต์แวร์ได้ ธุรกิจที่มีทรัพย์สินที่ปรับตัวได้ก็ย่อมมีข้อได้เปรียบมากกว่า เช่น อาคารสำนักงานที่ออกแบบให้ปรับเป็นพื้นที่ค้าปลีกหรือคลังสินค้าได้ ย่อมมีโอกาสในการปล่อยเช่ามากกว่าในยุคที่คนหันไปทำงานที่บ้านกันมากขึ้น หรือเครื่องจักรที่สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายก็สามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการของตลาดได้รวดเร็วกว่าธุรกิจที่มีทรัพย์สินเฉพาะทางเพียงอย่างเดียว
หากเปรียบเทียบการบริหารสินทรัพย์ที่ยืดหยุ่นกับการลงทุน การมีสินทรัพย์ที่ใช้ได้หลายอย่างก็เหมือนกับการกระจายความเสี่ยง หากธุรกิจหนึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนทรัพยากรไปทำอย่างอื่นได้ นอกจากนี้ ธนาคารยังมองว่าสินทรัพย์ที่มีความยืดหยุ่นสูงเป็นหลักประกันที่ดีในการปล่อยกู้ เนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและสามารถนำไปขายต่อได้ง่าย ทำให้เงื่อนไขในการกู้เงินดีขึ้นและดอกเบี้ยต่ำกว่า
นอกเหนือจากข้อดีต่อธุรกิจการมีสินทรัพย์อเนกประสงค์ยังช่วยส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่ากว่า เปรียบเสมือนการใช้กล่องพลาสติกใส่อาหารที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ ดีกว่าต้องใช้ภาชนะหลายใบที่ทำให้สิ้นเปลืองพื้นที่และทรัพยากร
สำหรับนักลงทุนการเลือกลงทุนในธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นสูงนั้นถือเป็นการลดความเสี่ยงในระยะยาว เพราะในยุคที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเร็วเช่นนี้ ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและมีแผนสำรองรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจะมีโอกาสอยู่รอดและเติบโตได้มากกว่า เหมือนคำกล่าวของชาร์ลส์ ดาร์วิน ที่ว่า “ไม่ใช่สปีชีส์ที่แข็งแกร่งที่สุดหรือฉลาดที่สุดที่จะอยู่รอด แต่เป็นสปีชีส์ที่สามารถปรับตัวได้ดีที่สุด”
ในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเตรียมความพร้อม การมีทางเลือกและความยืดหยุ่นในการบริหารสินทรัพย์จึงไม่ใช่แค่ทางเลือกแต่เป็นสิ่งจำเป็น เหมือนกับการมีร่มในหน้าฝนหรือมีเงินเก็บในยามฉุกเฉิน สำหรับธุรกิจการมีทรัพย์สินที่ยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคที่ไร้ความแน่นอน
อ้างอิง
Chatjuthamard, P., Papangkorn, S., Jiraporn, P., & Phiromswad, P. (2024). Asset redeployability, sustainability, and managerial prudence: evidence from economic policy ncertainty. International Journal of Accounting & Information Management, 32(1), 100-121.
บทความนี้เขียนโดย คณาจารย์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin School of Management) : รศ.ดร. พัฒนาพร ฉัตรจุฑามาส/ ศ.ดร. ภรศิษฐ์ จิราภรณ์/ รศ.ดร. ปิยะชาติ ภิรมย์สวัสดิ์/ ดร. สรวงรัตน์ ปภังกร
แจ้งเตือนสำหรับผู้ใช้งาน OneDrive จุฬาฯ ที่มีข้อมูลเกิน 100 GB ข้อมูลจะถูกลบแบบถาวรภายใน 30 มิถุนายน 2568
ผลงานวิจัยระดับปริญญาบัณฑิตในพื้นที่ป่าสะสมคาร์บอน จุฬาฯ สระบุรี คว้ารางวัลจากงานประชุมวิชาการระดับชาติ
จุฬาฯ รับการตรวจประเมินคุณภาพหลักสูตรคณะทันตแพทยศาสตร์ และคณะรัฐศาสตร์ ด้วยเกณฑ์มาตรฐาน AUN-QA ระดับ ASEAN
จดหมายเปิดผนึกถึงนักศึกษาชาวไทยในสหรัฐอเมริกา
เชิญชวนนิสิตจุฬาฯ ประเมินการเรียนการสอนออนไลน์ผ่านระบบ myCourseVille ในระบบตรีภาค ภาคการศึกษาที่ 3 ระบบทวิภาค และทวิภาค – นานาชาติภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2567
จุฬาฯ บ่มเพาะนวัตกรรมทางสังคม 17 โครงการ ต่อยอดงานวิจัยสู่นวัตกรรมเพื่อสังคม
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้ ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้
ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้