รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
ข่าวสารจุฬาฯ
16 พฤษภาคม 2568
ข่าวเด่น, ความเป็นนานาชาติ
ในโอกาสสำคัญที่เรือตัดน้ำแข็ง “เสว่ยหลง 2” ของสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ระหว่างวันที่ 19 – 23 พฤษภาคม 2568 ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา และในวาระครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย – จีน นับเป็นข่าวใหญ่ที่น่ายินดีอย่างยิ่งของประเทศไทยและวงการวิทยาศาสตร์ทางทะเลที่ได้มีโอกาสต้อนรับเรือสำรวจขั้วโลกขนาดใหญ่จากจีนลำนี้ ซึ่งเป็นเรือตัดน้ำแข็งลำแรกที่ต่อขึ้นในประเทศจีนที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการวิจัยทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้
ศ.ดร.วรณพ วิยกาญจน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ เปิดเผยถึงความพิเศษของเรือตัดน้ำแข็ง “เสว่ยหลง 2” ว่า เป็นเรือวิจัยสำรวจขั้วโลกลำที่ 4 ของจีน มีสมรรถนะสูง และเป็นเรือลำแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีในการตัดน้ำแข็งได้ทั้งขณะเดินหน้าและถอยหลัง สามารถตัดผ่านน้ำแข็งที่หนาถึง 1.5 เมตรได้ด้วยความเร็วประมาณ 2 – 3 นอต (ไมล์ทะเล/ชั่วโมง) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมรรถนะในการตัดน้ำแข็งในขณะที่เรือถอยหลัง สามารถตัดน้ำแข็งที่มีความหนากว่า 10 เมตรได้ เรือตัดน้ำแข็งลำนี้มีความยาว 122.5 เมตร กว้าง 22.3 เมตร กินน้ำลึก 12 เมตร ระวางขับน้ำ 13,990 ตัน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 10 ชั้น ประกอบด้วยห้องต่าง ๆ เช่น ห้องพักนักวิจัยและลูกเรือ ห้องสันทนาการ ห้องประชุม ห้องออกกำลังกาย โรงพยาบาลขนาดย่อมที่สามารถผ่าตัดฉุกเฉินได้ ห้องอ่านหนังสือ ลานจอดและโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ ห้องปฏิบัติงานวิจัยหลายประเภท ทั้งแล็บแห้งสำหรับงานด้านสมุทรศาสตร์หรือกายภาพ แล็บเปียกสำหรับงานด้านเคมีและชีวภาพ รวมถึงห้องเก็บตัวอย่างอุณหภูมิต่ำ พรั่งพร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยในการสำรวจทางธรณี สมุทรศาสตร์ อากาศ บรรยากาศ ฯลฯ บริเวณดาดฟ้าชั้น 10 จะเป็นสะพานเดินเรือ มีห้องควบคุมการเดินเรือ ส่วนด้านบนดาดฟ้าสะพานเดินเรือจะมีเครื่องมือที่เป็นระบบอัตโนมัติในการเก็บข้อมูลสภาพอากาศ ลม ฝุ่นละออง หรืออื่น ๆ ซึ่งถือว่าครบครันสำหรับการปฏิบัติภารกิจในทะเลและบริเวณขั้วโลก
เรือเสว่ยหลง 2 สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 90 คน โดยแบ่งออกเป็นลูกเรือ 40 คน ส่วนอีก 50 คน เป็นกลุ่มนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ หรืออื่น ๆ ที่ใช้เรือตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยภารกิจหลักของเรือ ได้แก่ การสนับสนุนการสำรวจวิจัยขั้วโลกของนักวิจัยหรือนักวิทยาศาสตร์ จากสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน (Polar Research Institute of China) หรือจากส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ภารกิจหลักอีกอย่างคือการสนับสนุนการปฏิบัติงานของสถานีวิจัยต่าง ๆ ของจีนในเขตขั้วโลก ผ่านการลำเลียงเสบียง อาหาร น้ำมัน อุปกรณ์ก่อสร้าง และอื่น ๆ ที่จำเป็น สำหรับภารกิจรองได้แก่ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ขณะที่เรือเข้าแวะเข้าเทียบท่าตามเมืองท่าต่าง ๆ เมื่อมีโอกาส
การปฏิบัติงานในรอบปีหรือแต่ละฤดูกาลของเรือตัดน้ำแข็งเสว่ยหลง 2 เริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน เมื่อขั้วโลกใต้กำลังจะย่างเข้าสู่ฤดูร้อน โดยออกจากนครเซี่ยงไฮ้แล้วมุ่งลงใต้ เพื่อไปรอรับคณะนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ชุดแรกที่จะมาลงเรือที่ประเทศออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ ก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่น่านน้ำทวีปแอนตาร์กติกหรือ Southern Ocean และเริ่มปฏิบัติการต่าง ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายซึ่งแตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ จึงเดินทางกลับมาแวะที่ออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์อีกครั้งช่วงต้นเดือนพฤษภาคมของปีถัดไป เพื่อส่งนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์กลับขึ้นบกก่อนที่เรือจะเดินทางกลับประเทศหลังจากนั้น เมื่อเสร็จสิ้นปฏิบัติการแอนตาร์กติก เรือเสว่ยหลง 2 ก็จะเริ่มปฏิบัติการอาร์กติกต่อไปในช่วงปลายเดือนกรกฏาคม โดยออกเดินทางขึ้นเหนือจนเสร็จสิ้นภารกิจในช่วงต้นเดือนตุลาคม
ในฤดูกาลปี 2568 นี้ การปฏิบัติงานของคณะนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ชุดสุดท้ายก่อนเดินทางมาแวะเยือนประเทศไทยและกลับนครเซี่ยงไฮ้ เป็นการศึกษาวิจัยระบบนิเวศทางทะเลในบริเวณทะเลรอสส์ (Ross Sea) ทางตอนใต้ของทวีปแอนตาร์กติก โดยเป็นปฏิบัติการร่วมระหว่างนักวิทยาศาสตร์กว่า 10 ประเทศบนเรือเสว่ยหลง 2 ปฏิบัติการครั้งนี้ทำให้เสว่ยหลง 2 ต้องกลับเข้าเทียบท่าที่เมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อแลกเปลี่ยนนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ชุดใหม่เพื่อปฏิบัติภารกิจ ซึ่งมีนักวิจัยไทย 1 คนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วม ได้แก่ ดร.อุดมศักดิ์ ดรุมาศ นักวิจัยอาวุโส จากสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ ซึ่งขณะนี้เสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างเดินทางกลับประเทศไทยพร้อมเรือตัดน้ำแข็งเสว่ยหลง 2 ด้วย
ด้วยสายพระเนตรและพระวิสัยทัศน์อันยาวไกลของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาวิจัยขั้วโลก ทำให้ประเทศไทยมีการทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการกับจีนในการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ขั้วโลกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2556 จากนั้นเป็นต้นมา จึงมีนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ไทยเข้าร่วมการศึกษาวิจัยดังกล่าวต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา พร้อมกับในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 นี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่จีน โดยสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน ร่วมเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน นำเรือตัดน้ำแข็งเสว่ยหลง 2 เดินทางเข้ามาเยือนประเทศไทย ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 19 – 23 พฤษภาคม 2568 ก่อนเดินทางกลับประเทศ ซึ่งเป็นการเยือนประเทศไทยครั้งแรกของเรือเสว่ยหลง 2 และเป็นการเดินทางออกนอกเส้นทางหลักในการสำรวจขั้วโลกของเรือเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ครั้งแรกได้แวะเยือนฮ่องกงในเดือนเมษายน 2567 ปีที่ผ่านมาก่อนกลับนครเซี่ยงไฮ้
กิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จะมีพิธีรับเรือเข้าเทียบท่าในวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น. จากนั้นจึงเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทำข่าวบนเรือเส่วยหลง 2 วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จเป็นองค์ประธานพระราชทานงานต้อนรับและเยี่ยมชมเรือ วันที่ 21 – 23 พฤษภาคม 2568 เปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนเป็นหมู่คณะสามารถเข้าเยี่ยมชมเรือได้ตามรอบที่กำหนด
นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมในพื้นที่อื่น อาทิ นิทรรศการ “เรือเสว่ยหลง 2 กับงานวิจัยขั้วโลก” ที่คริสตัล คอร์ท ชั้น 2 สยามพารากอน และหากท่านพลาดโอกาสนี้จะสามารถติดตามได้ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ช่วงเดือนสิงหาคม 2568
ทั้งนี้จะมีงานประชุมวิชาการที่จัดขึ้นโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน ภายใต้หัวข้อ “Xuelong 2 and Beyond : Advancing Polar Research and Thailand – China Cooperation in a Changing Climate” ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 – 13.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 7 อาคารเฉลิมราชกุมารี 60 พราษา (อาคารจามจุรี 10) เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ขั้วโลก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะมีการบรรยายพิเศษและการเสวนาโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากฝ่ายไทยและจีนในหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจ
ศ.ดร.วรณพ เน้นย้ำถึงประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับจากการที่เรือตัดน้ำแข็ง “เสว่ยหลง 2” ของสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า เป็นโอกาสที่เยาวชนและคนไทยจะได้เรียนรู้เทคโนโลยีล้ำสมัยของการสำรวจวิจัยขั้วโลกโดยเรือตัดน้ำแข็งลำนี้ และไม่เพียงด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลหรือสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริบทของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และเป็นแรงบันดาลใจให้นักวิจัยไทยรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในเวทีวิจัยระดับนานาชาติ
ท้ายสุด ศ.ดร.วรณพ ได้กล่าวเชิญชวนนิสิต นักศึกษา และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย งานนี้มีความสำคัญระดับโลก เพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีล้ำสมัยของเรือวิจัย “เสว่ยหลง 2” ของจีน และแสดงให้เห็นว่านักวิทยาศาสตร์ไทยให้ความสำคัญของการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลและสิ่งแวดล้อมในระดับโลก
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จฯ แทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากจุฬาฯ ปีการศึกษา 2567 เป็นวันที่สอง
จุฬาฯ ประดับธงชาติไทยที่อาคารมหิตลาธิเบศร และอาคารสรรพศาสตร์วิจัย เนื่องใน “วันพระราชทานธงชาติไทย”
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากจุฬาฯ ปีการศึกษา 2567
นิสิตสถาปัตย์ จุฬาฯ ชนะเลิศการประกวดออกแบบสถาปัตยกรรม Liminal Terminal: Transitioning something to anything
การเปิด-ปิดประตูจุฬาฯ และการจัดการจราจรพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจุฬาฯ ปีการศึกษา 2567
นิสิต BBA จุฬาฯ คว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขัน NHH International Case Competition 2025 ที่นอร์เวย์
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้ ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้
ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้