ข่าวสารจุฬาฯ

จุฬาฯ จัดงานเสวนาเปิดนิทรรศการ AI เฉลิมพระเกียรติฯ “แสงสว่างกลางใจ สานสายใยไทยมุสลิม” พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สะท้อนสายใยไทย–มุสลิม

              จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์พหุวัฒนธรรมศึกษาและนวัตกรรมทางสังคม สถาบันเอเชียศึกษา และคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ จัดงานเสวนาเปิดนิทรรศการปัญญาประดิษฐ์ (AI) “แสงสว่างกลางใจ สานสายใยไทยมุสลิม” ภายใต้โครงการวิจัยเฉลิมพระเกียรติเพื่อจัดทำองค์ความรู้เรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์กับมุสลิมในแผ่นดินไทย” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 โดยมี ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงานเสวนา เมื่อวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568  ณ ห้องการแสดงและกิจกรรม อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์

ในโอกาสนี้ นายปัทมนิธิ เสนาณรงค์ หัวหน้าฝ่ายบริหารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ สำนักงานพระคลังข้างที่ เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และ ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ รองอธิการบดีจุฬาฯ กล่าวถึงความสำคัญของโครงการ จากนั้น ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 โดยมี ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ รองอธิการบดีจุฬาฯ รศ.ดร.ภาวิกา ศรีรัตนบัลล์ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ และ ศ.ดร.ขำคม พรประสิทธิ์ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมในพิธีเปิดงานเสวนาและพิธีเปิดนิทรรศการครั้งนี้ด้วย

  ในโอกาสนี้ มีการปาฐกถาในหัวข้อ “พหุวัฒนธรรมใต้ร่มพระบารมีแห่งองค์อัครศาสนูปถัมภก : จากใจชาวไทยมุสลิม” การเสวนาในหัวข้อ “มุสลิมไทยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ : การสร้างสรรค์ข้อมูลความรู้ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)” โดย ดร.ดลยา เทียนทอง รองผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ และรักษาการรองผู้อำนวยการศูนย์พหุวัฒนธรรมศึกษาและนวัตกรรมทางสังคม และ ผศ.ดร.จนัธ เที่ยงสุรินทร์ ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ การเสวนาโดยพยาบาลวิชาชีพและเจ้าพนักงานสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลำลอง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ในหัวข้อ “เสียงจากหัวใจไทยมุสลิมภายใต้พระมหากรุณาธิคุณ”

              ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำเรื่องของปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในทุกศาสตร์ นิทรรศการในครั้งนี้เป็นการเชื่อมโยงปัญญาประดิษฐ์กับสังคม โดยที่ผ่านมาเรามักนึกถึงปัญญาประดิษฐ์ในด้านนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์ แต่วันนี้เราสามารถทำให้ปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในการนำนวัตกรรมมาเชื่อมโยงและถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ในงานทางด้านสังคม นิทรรศการปัญญาประดิษฐ์ (AI) “แสงสว่างกลางใจ สานสายใยไทยมุสลิม” แสดงถึงสัมพันธภาพและการแสดงถึงความจงรักภักดีที่ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่ามีต่อในหลวงของเรา ภายในนิทรรศการนำเสนอเรื่องราวการดูแลช่วยเหลือประชาชนไทยมุสลิม ภายใต้พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาเชื่องโยงบูรณาการข้อมูลให้น่าสนใจ

              “ขอเชิญชวนประชาชนแวะเวียนมาเยี่ยมชมนิทรรศการในครั้งนี้ซึ่งมีความตื่นตาตื่นใจ เต็มไปด้วยเรื่องราวและความคิดสร้างสรรค์ ผู้ชมจะได้รับทั้งความรู้และได้เห็นนวัตกรรมที่สามารถเชื่อมโยงสังคมได้อย่างแท้จริง ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ และช่วยสร้างพลังความสามัคคีของคนไทยทุกคน” ศ.ดร.วิเลิศกล่าว

              ศ.ดร.วิเลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามามีส่วนร่วมกับเกี่ยวข้องกับชีวิตของทุก ๆ คน ไม่ใช่เพียงเรื่องการศึกษา เราต้องตระหนักถึงการสร้าง AI ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต โดยไม่กระทบกับคุณค่าหลักของความเป็นมนุษย์และมิตรภาพ  AI เป็นเครื่องมือ แต่ท้ายที่สุดแล้วคุณค่าความเป็นมนุษย์ สุนทรียภาพในการรับรู้ความรู้สึก ล้วนเกิดจากมนุษย์ จุฬาฯ เป็นผู้ประดิษฐ์ปัญญา นวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนมาจากนวัตกร ดังนั้น นวัตกรต้องมาก่อนนวัตกรรม สังคมของการเรียนรู้จึงต้องสร้างนวัตกรเพื่อไปสร้างนวัตกรรม สร้างปัญญาประดิษฐ์ที่มีคุณค่าต่อสังคม

              ผศ.ดร.อับดุลเลาะ หนุ่มสุข รองประธานคณะผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี และผู้อำนวยการสถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา สำนักจุฬาราชมนตรี ผู้แทนจุฬาราชมนตรี ปาฐกถาในหัวข้อ “พหุวัฒนธรรมใต้ร่มพระบารมีแห่งองค์อัครศาสนูปถัมภก : จากใจชาวไทยมุสลิม” โดยกล่าวว่า ประชาชนชาวไทยมุสลิมในประเทศไทยมีอยู่โดยประมาณ 5-6 % ของประชากร ประวัติศาสตร์ไทยที่ผ่านมามีเรื่องราวของชาวมุสลิมที่มีส่วนช่วยในการก่อร่างสร้างชาติมาโดยตลอด ความเป็นพหุวัฒนธรรมในสังคมไทย ทำให้เราได้เห็นพุทธศาสนิกชนและมุสลิมอยู่ร่วมกันด้วยความรัก ถ้อยทีถ้อยอาศัย และเคารพในวิถีซึ่งกันและกัน ถือเป็นความงดงามของการอยู่ร่วมกันในสังคมไทย

              “พหุวัฒนธรรมไม่ได้เกิดมาโดยบังเอิญ แต่มีเหตุและปัจจัย สิ่งที่ทำให้ความงดงามนี้เกิดขึ้นคือบทบาทของพระมหากษัตริย์ที่แสดงบทบาทในฐานะ “องค์อัครศาสนูปถัมภก” โดยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ให้ความอุปถัมภ์ ค้ำจุน และทะนุบำรุงทุก ๆ ศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ก่อให้เกิดความงดงามเชิงพหุวัฒนธรรม ประชาชนทุกคนจึงมีเสรีภาพ มีอิสรภาพในการนับถือ ปฏิบัติ และเผยแพร่ศาสนาของตนเองได้ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีเสรีภาพด้านศาสนามากกว่าหลาย ๆ ประเทศในโลก” ผศ.ดร.อับดุลเลาะ กล่าว

              สำหรับพี่น้องมุสลิม ล้วนมีความรู้สึกปลื้มปีติ ภาคภูมิใจ ต่อบทบาท “องค์อัครศาสนูปถัมภก”ของพระมหากษัตริย์อย่างสูงสุด ชาวมุสลิมมีความเข้มข้นในการรักษาอัตลักษณ์ ทั้งการปฏิบัติตัว การแต่งกาย อาหารฮาลาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เกียรติชาวมุสลิม เปิดพื้นที่ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งของชาติ สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดความสามัคคีของชาติอย่างยั่งยืน ชาวมุสลิมจึงของแสดงความจงรักภัคดีจากใจ โดยทุกคนพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการร่วมพัฒนาชาติต่อไป

         ดร.ดลยา เทียนทอง รองผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ  และรักษาการรองผู้อำนวยการศูนย์พหุวัฒนธรรมศึกษาและนวัตกรรมทางสังคม กล่าวเสวนาเรื่อง “มุสลิมไทยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ : การสร้างสรรค์ข้อมูลความรู้ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)” โดยกล่าวว่า โครงการวิจัยเฉลิมพระเกียรติเพื่อจัดทําองค์ความรู้เรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์กับมุสลิมในแผ่นดินไทย” เป็นโครงการที่สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ จัดทำมาเป็นเวลานาน โดยมีการจัดทำหนังสือเฉลิมพระเกียรติและการจัดนิทรรศการด้วย  ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระธรรมราชา เป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก ทรงดูแลประชาชนทุกคนบนแผ่นดินไทยอย่างเท่าเทียม พระราขกรณียกิจที่สำคัญต่อการเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกในศาสนาอิสลามคือ การส่งเสริมกิจการศาสนา การพัฒนาคุณภาพชีวิต  และการพระราชทานความช่วยเหลือ แก้ปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชนมุสลิม พระราชกรณียกิจที่สำคัญเหล่านี้สร้างสังคมพหุวัฒนธรรมที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีความเป็นเอกภาพบนความหลากหลาย แต่ทุกคนรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

              ดร.ดลยา กล่าวต่อไปว่า สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ ได้คัดเลือกเรื่องราวประกอบกับการศึกษาค้นคว้าในรูปแบบต่าง ๆ ร้อยเรียงให้เกิดเป็นงานนิทรรศการ แต่ด้วยเนื้อหาของเรื่องราวเป็นเนื้อหางานวิชาการ มีความลุ่มลึก การนำเอาเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมจึงมีส่วนช่วยให้งานเกิดความน่าสนใจ ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงเนื้อหาเรื่องราวได้ง่ายมากขึ้น โดย AI จะมีการปฏิสัมพันธ์แบบ Two-way communication ช่วยให้คนดูมีอารมณ์ร่วมกับงาน เข้าถึงและเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวได้มากขึ้น

              ด้าน ผศ.ดร.จนัธ เที่ยงสุรินทร์ ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า แนวคิดการออกแบบนิทรรศการ เพื่อสร้างผลงานที่น่าติดตาม โดยมีการใช้ AI ออกแบบแอนิเมชั่น สร้างเป็นคาแรคเตอร์น้องซอฟา เพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงข้อมูลให้แก่ผู้เข้าชม ช่วยให้ทุกคนได้เรียนรู้เรื่องราวด้วยความสนุกมากยิ่งขึ้น

             “นิทรรศการปัญญาประดิษฐ์ (AI) “แสงสว่างกลางใจ สานสายใยไทยมุสลิม” มีการสร้างเรื่องราวโดย AI ทุก ๆ ผลงานจึงทำด้วยความรอบคอบและตั้งใจ มีมนุษย์เป็นผู้ควบคุมและปรับแต่ง เพื่อให้ข้อมูลที่ได้จากการศึกษานั้นสามารถนำมาสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ผ่านเทคโนโลยี AI ให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างถูกต้องมากที่สุด” ผศ.ดร.จนัธ กล่าว

              นิทรรศการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ภายใต้ชื่อ “แสงสว่างกลางใจ สานสายใยไทยมุสลิม” นับเป็นหนึ่งในผลงานสำคัญของโครงการวิจัยเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมีเป้าหมายในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ในฐานะองค์อัครศาสนูปถัมภก ผู้ทรงอุปถัมภ์ศาสนาและคติความเชื่อต่าง ๆ อย่างเสมอภาคและเหมาะสม ภายใต้หลักทศพิธราชธรรม นำมาซึ่งความร่มเย็นและสันติสุขแก่ประชาชนไทยทุกเชื้อชาติศาสนาที่อยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความหลากหลายทางวัฒนธรรมภายใต้ร่มพระบารมี การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษากรณีของชาวไทยมุสลิมที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในด้านต่าง ๆ อาทิ การส่งเสริมกิจการศาสนาอิสลาม การยกย่องเชิดชูเกียรติ ตลอดจนการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้เจ็บป่วยหรือประสบภัยพิบัติ ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการศึกษานั้นได้นำมาสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ผ่านเทคโนโลยี AI เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างกว้างขวาง และสอดคล้องกับพันธกิจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนสังคมสู่อนาคตภายใต้แนวคิด “AI for Good” หรือ “AI ที่ดีและถูกต้อง เพื่อประโยชน์แท้จริงของสังคมไทย”

              นิทรรศการฯ เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2568 ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคารนิทรรศรัตนโกสินทร์ ถ.ราชดำเนิน  สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามผลงานของศูนย์พหุวัฒนธรรมศึกษาและนวัตกรรมทางสังคม สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ที่

– Facebook :  ศูนย์พหุวัฒนธรรมศึกษาและนวัตกรรมทางสังคม สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ  https://www.facebook.com/MSSICChula/

 – Youtube : @mssicchula3764  https://www.youtube.com/@mssicchula3764

– E-mail : mssic.chula@gmail.com

– โทรศัพท์  0-2218-7435

จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด

คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า