ข่าวสารจุฬาฯ

ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาฯ ส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงกบนา ผลลัพธ์เกินคาดได้กบน้ำหนัก 8 ขีดใน 4 เดือน สร้างรายได้ยั่งยืนให้ชุมชน

ความสำเร็จของ “โครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงกบนา” ภายใต้การดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากจะส่งเสริมการประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้เกษตรกรแล้ว ความสำเร็จที่น่าภูมิใจเกิดขึ้นในพื้นที่ตำบลสะเนียน จังหวัดน่าน เมื่อกบนาจากโครงการนี้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและมีขนาดใหญ่ หลังจากเลี้ยงกบเพียง 3-4 เดือน พบว่ากบบางตัวมีน้ำหนักมากถึง 8 ขีด ซึ่งถือเป็นขนาดที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบในพื้นที่ สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวบ้านและเกษตรกรในจังหวัดน่านอย่างมาก

คุณสุจิตรา สุธรรม เจ้าของฟาร์มกบ อบต.สะเนียน ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงกบนา เปิดเผยถึงความประทับใจและความประหลาดใจจากผลลัพธ์ที่ได้รับว่า ที่ผ่านมาเคยมีประสบการณ์ในการเลี้ยงกบมาก่อน แต่โดยทั่วไปกบที่เลี้ยงจะโตเต็มที่ประมาณ 5-6 ขีดเท่านั้น ไม่เคยพบกบตัวใหญ่ขนาดถึง 8 ขีดเช่นนี้มาก่อน ซึ่งหลังจากที่ได้เข้าร่วมการอบรมการเพาะเลี้ยงกบกับศูนย์เครือข่ายฯ เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา และได้รับลูกกบมาทดลองเลี้ยงตามวิธีการที่ได้เรียนรู้ ผลปรากฏว่าภายในระยะเวลาเพียง 3-4 เดือน กบมีขนาดใหญ่และแข็งแรงมากจนไม่กล้าที่จะขาย เพราะไม่เคยเห็นกบโตเร็วและสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน เมื่อเทียบขนาดกับกบของเกษตรกรคนอื่น ๆ ที่ได้รับลูกกบมาพร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกัน กบก็มีขนาดไม่ใหญ่เท่า

ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินพันธกิจสำคัญในการให้บริการทางวิชาการแก่สังคม โดยมุ่งเน้นการเผยแพร่ความรู้และพัฒนาศักยภาพของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน สำหรับโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงกบนาเป็นหนึ่งในกิจกรรมต่อเนื่องที่ศูนย์เครือข่ายฯ ได้จัดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดน่าน

โครงการดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงการอบรมเชิงทฤษฎีเท่านั้น แต่เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการที่ให้ผู้เข้าร่วมได้ลงมือทำจริง เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง และได้รับการติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและสร้างความเข้าใจอย่างแท้จริง ศูนย์เครือข่ายฯ ได้นำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาถ่ายทอดและบูรณาการเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่เหมาะสมและสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในบริบทของพื้นที่

ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงกบนาของศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาฯ มุ่งให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงความรู้และทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพเลี้ยงกบนาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยวัตถุประสงค์หลักของโครงการคือ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจและทักษะพื้นฐานในการเลี้ยงกบนา สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับครอบครัวอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ โครงการยังมุ่งเน้นการพัฒนาอาชีพและยกระดับรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์น้ำพื้นบ้าน เทคนิคการจัดการฟาร์มที่เหมาะสม และการให้อาหารอย่างถูกวิธี เพื่อให้เกษตรกรสามารถเพิ่มอัตราการรอดของกบและสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพสูง

สำหรับเนื้อหาของโครงการครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เริ่มจากการบรรยายเรื่องการสืบพันธุ์และผสมพันธุ์กบนา ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานที่สำคัญในการเพาะเลี้ยง การฉายวิดีทัศน์เพื่อสร้างแรงจูงใจและแสดงตัวอย่างความสำเร็จของผู้ที่ประกอบอาชีพนี้ ส่วนที่สำคัญที่สุดคือการปฏิบัติการผสมพันธุ์กบนา และการติดตามการเจริญเติบโตของลูกอ๊อด ซึ่งผู้เข้าร่วมจะได้ลงมือทำด้วยตัวเองภายใต้การดูแลของวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ภายหลังจากการอบรม ศูนย์เครือข่ายฯ ยังได้มอบลูกกบให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเพื่อนำไปทดลองเลี้ยง พร้อมทั้งมีการติดตามผลและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเกษตรกรสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติได้จริงและประสบความสำเร็จ

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากกบตัวใหญ่ขนาด 8 ขีดในครั้งนี้จึงไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ถูกต้องและเหมาะสมจากศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาฯ ที่มุ่งเน้นให้เกษตรกรได้รับความรู้ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสร้างความมั่นใจและแรงจูงใจให้เกษตรกรต่อยอดอาชีพเลี้ยงกบได้อย่างจริงจัง

นอกจากนี้ โครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงกบนายังสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการใช้องค์ความรู้เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและชุมชน โดยโครงการนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยเฉพาะ SDGs 1 การขจัดความยากจน และ SDGs 15 ระบบนิเวศทางบก เนื่องจากการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงกบนาช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ลดความยากจน และยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัว นอกจากนี้ การเลี้ยงกบนายังเป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ผลสำเร็จของโครงการ ไม่เพียงแต่สร้างรายได้และอาชีพที่มั่นคงให้กับครัวเรือนเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการบูรณาการองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนในจังหวัดน่าน ซึ่งผลผลิตกบนาที่มีคุณภาพสูงสามารถสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับเกษตรกร เนื่องจากกบนาเป็นสินค้าที่มีความต้องการในตลาดทั้งในและต่างประเทศ การมีกบที่มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์จะสามารถขายได้ในราคาที่ดี สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกร

จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้

ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า