คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ จัดโครงการปลอดปรสิต ครั้งที่ 9 ให้บริการตรวจวินิจฉัยปรสิตที่สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด

คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดโครงการปลอดปรสิต ครั้งที่ 9 นำคณาจารย์และนิสิตลงพื้นที่เผยแพร่ความรู้และให้บริการตรวจวินิจฉัยปรสิตแก่เด็กที่สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ระยะเวลาการปฏิบัติงาน เมื่อเดือนเมษายน – มิถุนายนที่ผ่านมา
รศ.ดร.ดวงดาว ปาละสุวรรณ ภาควิชาจุลทรรศน์ศาสตร์คลินิก คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ ผู้ประสานงานหลักโครงการปลอดปรสิต ครั้งที่ 9 เปิดเผยว่า ทางภาควิชาฯ มีพันธกิจในการสอนนิสิตเทคนิคการแพทย์ซึ่งจะต้องเรียนเกี่ยวกับการตรวจเชื้อปรสิต ซึ่งการเรียนอยู่ในแค่ห้องเรียนเป็นการเรียนในเชิงทฤษฎี ไม่ได้ลงมือปฏิบัติจริง ทางภาควิชาจุลทรรศน์ศาสตร์คลินิกและหลักสูตรเทคนิคการแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ มีความมุ่งหมายให้นิสิตนำองค์ความรู้ที่ได้เรียนในวิชาชีพไปช่วยเหลือผู้อื่นและดูแลสังคม จึงเกิดโครงการปลอดปรสิตขึ้น

เหตุผลที่ตรวจเชื้อปรสิตที่สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด นนทบุรี
ปัจจุบันปัญหาเรื่องพยาธินั้นสามารถพบได้ทุกที่ เหตุผลที่เลือกสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด เนื่องจากเด็กผู้ชายในสถานสงเคราะห์มีอายุตั้งแต่ 3 – 18 ปี ซึ่งอยู่ในวัยซุกซนและมีการคลุกคลีกันมาก ทำให้มีโอกาสเกิดพยาธิได้ง่าย อีกทั้งสถานสงเคราะห์ยังขาดการดูแลเรื่องการตรวจพยาธิ จึงเป็นที่มาของโครงการนี้ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9
อันตรายของเชื้อปรสิต และวิธีการรักษา
เชื้อปรสิตมีอันตรายต่อสุขภาพเด็ก ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก ทำให้เกิดอาการท้องเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยมีสภาพภูมิอากาศและสภาพสิ่งแวดล้อมที่ทำให้พยาธิเจริญเติบโตได้ดี เมื่อพยาธิเข้าไปในร่างกาย จะไปอยู่ในลำไส้ เข้าไปแย่งอาหาร ขัดขวางการเจริญเติบโตของเด็ก อาจทำให้เด็กนอนไม่หลับเนื่องจากอาการคัน เช่น พยาธิเข็มหมุดที่ออกมาทางทวารหนัก พยาธิปากขอจะดูดเลือดในลำไส้ ทำให้โลหิตจางได้ โดยสถานสงเคราะห์ฯ จะมีแพทย์ประจำ ซึ่งจะนำผลการตรวจของภาควิชาฯ ไปจ่ายยาให้เด็กโดยเฉพาะตามชนิดของพยาธิ
ขั้นตอนการให้บริการตรวจหาเชื้อปรสิต
เริ่มจากการนำกระปุกเก็บอุจจาระไปให้เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด และเดินทางไปเก็บตัวอย่างอุจจาระในเด็กที่สถานสงเคราะห์จำนวน 96 คน จากนั้นจึงนำตัวอย่างอุจจาระมาตรวจที่ภาควิชาจุลทรรศน์ศาสตร์คลินิก คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ โดยนิสิตเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่ 3 จะดำเนินการตรวจตัวอย่างสิ่งส่งตรวจภายใต้การควบคุมดูแลจากคณาจารย์ และส่งผลกลับไปยังสถานสงเคราะห์เพื่อจ่ายยาตามผลการตรวจ จากการตรวจตัวอย่างอุจจาระของเด็กจำนวน 96 ราย พบว่ามีผู้ติดเชื้อปรสิตจำนวน 20 ราย เชื้อปรสิตที่พบส่วนใหญ่ได้แก่ พยาธิโปรโตซัว พยาธิปากขอ
ความสำเร็จและประโยชน์ของโครงการนี้
โครงการปลอดปรสิต ครั้งที่ 9 ประสบความสำเร็จเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการและได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างดี น้องๆ ในสถานสงเคราะห์ให้ความร่วมมือในการเก็บอุจจาระมาตรวจหาพยาธิ นอกจากนี้นิสิตเทคนิคการแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ ยังได้ฝึกวิชาชีพในการทำประโยชน์เพื่อสังคม ได้ลงมือปฏิบัติจริงซึ่งแตกต่างจากการเรียนในห้องเรียน
หน่วยงานที่สนใจจะสนับสนุนโครงการปลอดปรสิตของคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ สามารถติดต่อได้ที่ รศ.ดร.ดวงดาว ปาละสุวรรณ ภาควิชาจุลทรรศน์ศาสตร์คลินิก คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ โทร. 0-2218-1541




จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้
ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย