จุฬาฯ จัดเสวนาวิชาการ “การขนส่งและโลจิสติกส์ไทยในยุคสงครามการค้า”สะท้อนมุมมองการปรับตัวของผู้ประกอบการท่ามกลางบริบทเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน

สถาบันการขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับหลักสูตรสหสาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน สถาบันเอเชียศึกษา และสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จัดการเสวนาวิชาการ เรื่อง “การขนส่งและโลจิสติกส์ไทยในยุคสงครามการค้า” เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ณ ห้อง 802 อาคารเฉลิมราชกุมารี 60 พรรษา (จามจุรี 10) โดยมี ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ เป็นประธานเปิดการเสวนา และ ศ.ดร.ศักดิ์สิทธิ์ เฉลิมพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันการขนส่ง จุฬาฯ กล่าวรายงาน



จากนั้นเป็นการเสวนาในหัวข้อโลจิสติกส์ไทยในยุคสงครามการค้า โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชนและภาควิชาการร่วมเสวนา ประกอบด้วย รศ.ดร. สมพงษ์ ศิริโสภณศิลป์ อาจารย์พิเศษหลักสูตรสหสาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน และอดีตผู้อำนวยการสถาบันการขนส่ง จุฬาฯ คุณภคิน คัมภิรานนท์ ที่ปรึกษาอิสระด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนคุณบวรสินธุ์ ตันธุวนิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโงวฮก จำกัด และกรรมการบริหารสถาบันการขนส่ง จุฬาฯ คุณกัณณ์กรรัตน์ ไตรธนานุบาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซ โกลบอล เอ็กซ์เพรส จำกัด ดร.สุรัตน์ จันทองปาน รองนายกสมาคมไทยโลจิสติกส์และการผลิต (TLAPS) และที่ปรึกษาฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ ดำเนินรายการโดย รศ.ดร.ดนุพล อริยสัจจากร คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ และกรรมการหลักสูตรสหสาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน
การเสวนาวิชาการครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าต่อระบบขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศไทย ทั้งในระดับนโยบายและการดำเนินงานจริงของภาคธุรกิจ รวมถึงการสะท้อนมุมมองจากหลากหลายภาคส่วนเพื่อหาแนวทางในการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ท่ามกลางบริบทเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน พร้อมเสนอแนะแนวทางเชิงนโยบายในการสนับสนุนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และเศรษฐกิจของไทยให้มีความแข็งแกร่ง ยั่งยืนและยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์สงครามการค้าโดยจะเจาะลึกผลกระทบนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาต่ออุสาหกรรมโลจิสติกส์และการค้าระหว่างประเทศของไทยเพื่อเปลี่ยนมุมมองเชิงกลยุทธ์ การปรับตัวและการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการไทย

ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังกันระหว่างสถาบันการขนส่ง สถาบันเอเชียศึกษา และสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน การถอดรหัสความคิดจากวิทยากรในการเสวนาในครั้งนี้จะจุดประกายความคิดในการเปลี่ยนสงครามทางการค้าให้เป็นสันติภาพทางการค้า ปัจจุบันการขนส่งและโลจิสติกส์เป็นกลไกที่เชื่อมโยงสินค้าต้นทุนและโอกาสทางการค้าเข้าด้วยกันทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค ระดับชาติ และระดับสากล การสัมมนาครั้งนี้จะเป็นเสียงสะท้อนที่นำไปสู่แนวทางนโยบายการปฏิบัติในภาครัฐ รวมทั้งเป็นการต่อยอดตามพลังของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยความเชื่อมั่นว่าเกียรติภูมิของมหาวิทยาลัยไม่ได้อยู่ที่การศึกษาเท่านั้น แต่รวมถึงการนำเสนอนโยบายและทิศทางอันเป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติ

ศ.ดร.ศักดิ์สิทธิ์ เฉลิมพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันการขนส่ง จุฬาฯ กล่าวว่า สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจโลกที่กำลังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งในด้านนโยบายการค้าและมาตรการภาษีนำเข้าของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือความผันผวนที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการค้าโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีเศรษฐกิจระบบเปิดซึ่งพึ่งพาการค้าในระดับนานาชาติค่อนข้างมากเมื่อปริมาณการค้าลดลง ผู้ประกอบการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ย่อมได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเกิดวิกฤตและสงครามทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนส่งโลจิสติกส์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางเรือ ทางรถบรรทุก ทางราง หรือทางอากาศ ถ้าเราสามารถคาดการณ์ในการประเมินความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม ผู้ประกอบการเหล่านี้จะสามารถปรับตัวและลดผลกระทบที่มีความรุนแรงให้ลดลงได้
ศ.ดร.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวเสริมอีกว่าบทบาทของภาครัฐซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยเหลือภาคธุรกิจให้สามารถประคองตัวผ่านช่วงวิกฤตได้ โดยเฉพาะการเจรจาการค้าเพื่อลดผลกระทบและช่วยพยุงสถานะของผู้ประกอบการเอกชน ภาครัฐจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับฟังความคิดเห็นและข้อกังวลจากภาคเอกชน เพื่อนำไปสู่การเจรจาการค้าอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการขนส่งและโลจิสติกส์จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมโดยเริ่มจากการประเมินความเสี่ยงในการดำเนินกิจการของตนเอง พยายามปรับตัวเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านั้น สามารถพยุงธุรกิจให้อยู่รอดได้ในวิกฤตการณ์การค้าที่เกิดขึ้นให้ได้นานที่สุด
“เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการเรื่องผลกระทบและความห่วงกังวลจากสงครามการค้าจากการสัมมนาครั้งนี้จะเป็นข้อมูลให้ภาครัฐนำไปกำหนดเป็นกลยุทธ์ในการเจรจาการค้าที่เหมาะสม ซึ่งจะเกิดประโยชน์ไม่เพียงเฉพาะผู้ประกอบการ แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจไทยโดยรวม” ศ.ดร.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย