“AI & Artistic Innovation”ประชุมวิชาการ AI ด้านศิลปกรรมระดับนานาชาติครั้งแรกของจุฬาฯ ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ

          คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมกับคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดการประชุมวิชาการนานาชาติ AI Symposium ครั้งที่ 1 ด้านศิลปกรรมของมหาวิทยาลัย ภายใต้หัวข้อ “AI & Artistic Innovation: Exploring New Frontiers in Fine and Applied Arts and Technology” ซึ่งเป็นงานประชุมวิชาการ AI ด้านศิลปกรรมระดับนานาชาติครั้งแรกของจุฬาฯ โดยมี รศ.ดร.มาโนช โลหเตปานนท์ รองอธิการบดี จุฬาฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงานเมื่อวันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2568 ณ ห้องแสดงดนตรี ชั้น 3 คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ  

          ในการนี้ รศ.ดร.สุธี เกษรเกศรา คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ศ.ดร.ขำคม พรประสิทธิ์ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมในพิธีเปิดงาน โดยมี อ.ดร.สิริยา จิตพิมลมาศ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ และ รศ.ดร.พรประพิตร์ เผ่าสวัสดิ์ รองคณบดีวิรัชกิจ เป็นที่ปรึกษาโครงการ

          การประชุมวิชาการนานาชาติด้านปัญญาประดิษฐ์ด้านศิลปกรรมระหว่างคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสองมหาวิทยาลัย เพื่อเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้และวิสัยทัศน์ใหม่เกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คณะศิลปกรรมศาสตร์และคณะวิจิตรศิลป์จึงเล็งเห็นความสำคัญในการร่วมกันวางรากฐานและขยายขอบเขตองค์ความรู้ในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในกระบวนการสร้างสรรค์งานศิลปกรรม และการกำหนดทิศทางนโยบายด้านศิลปกรรมในอนาคต รวมทั้งการทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับจริยธรรมการใช้ปัญญาประดิษฐ์สำหรับการเรียนการสอนด้านศิลปกรรมศาสตร์ และการสร้างสรรค์ผลงานของอาจารย์ นิสิต นักศึกษาและนักวิจัย

          คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตระหนักถึงบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนรู้ การสร้างสรรค์ และการพัฒนาระบบนิเวศทางศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ทางศิลปกรรมที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยี โดยยังคงยึดมั่นในคุณค่าแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมและจริยธรรมแห่งการสร้างสรรค์

          ในงานมีปาฐกถาพิเศษโดย ผศ.ดร.จนัธ เที่ยงสุรินทร์ อาจารย์ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ นำเสนอประเด็นร่วมสมัยภายใต้หัวข้อ “Streamdiffusion AI for Real-time Visual Design” ทบทวนและตั้งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของปัญญาประดิษฐ์กับกระบวนการเรียนรู้และการสร้างสรรค์ การศึกษาในสาขาศิลปกรรมศาสตร์มีความจำเป็นอยางยิ่งมากยิ่งขึ้นในการสร้างภูมิคุ้มกันทางวัฒนธรรมและจริยธรรมของการใช้เทคโนโลยีอย่างมีวิสัยทัศน์ โดยเฉพาะในบริบทของอาเซียนที่ศิลปินสามารถขยายขอบเขตเชื่อมโยงปัญญาดิษฐ์กับการสร้างสรรค์งานศิลปกรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น

          ในส่วนของประเด็นเกี่ยวกับข้อพิจารณาด้านจริยธรรมและการปฏิบัติในบริบทการศึกษาดนตรีและศิลปะการออกแบบด้วยปัญญาประดิษฐ์ ได้รับการพิจารณาและนำเสนอโดย Prof.Dr. Jin Hui คณบดีคณะศิลปะและการออกแบบ Minjiang University สาธารณรัฐประชาชนจีน เรื่องChinese Arts and Crafts Education under the Background of AIGC  นอกจากนี้ Prof.Dr. David Hebert จาก  Western Norway University of Applied Sciences (Norway) นำเสนอเรื่อง Quality and Originality in AI-Enhanced Higher Education Arts Programs ซึ่งมีการพิจารณาประเด็นร่วมที่สำคัญได้แก่ อคติของชุดข้อมูลและความเป็นเนื้อเดียวทางวัฒนธรรม ความโปร่งใสทางวิชาการ และการใช้เนื้อหาและการนำไปใช้งานอย่างเป็นธรรม ความหลากหลายของแหล่งข้อมูลและนักพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทขององค์กร

          อ.ดร.วุฒินท์ ชาญสตบุตร คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ในการตีความในกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานศิลปกรรม ในหัวข้อเรื่อง Pareidolic Narrative: An Alternative Approach to Constructing Visual Language through Interpretations of AI ประเด็นเกี่ยวกับความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ในการตีความในกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานศิลปกรรมนั้น เป็นหัวข้อที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในยุคปัจจุบัน เมื่อปัญญาประดิษฐ์ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถในกระบวนการคิด วิเคราะห์ และสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นขอบเขตที่เดิมเชื่อกันว่าเป็นเอกสิทธิ์ของมนุษย์เพียงเท่านั้น

          ในบริบทของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสมัยใหม่ สถาบันการศึกษาทั่วโลกต่างเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความรู้และทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ให้แก่เยาวชนและผู้ประกอบวิชาชีพในหลากหลายสาขา โดยเฉพาะในด้านศิลปกรรมศาสตร์ การสร้างสรรค์ผลงานเริ่มเปิดรับปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคิดและผลิตงานสร้างสรรค์อย่างกว้างขวาง

         

               ด้วยวิสัยทัศน์ดังกล่าว National University of Singapore ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชีย ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาความเข้าใจเรื่อง AI ในบริบทของศิลปะและการประพันธ์ดนตรี จึงได้ส่ง Francis Hui Tan ผู้อำนวยวง National University of Singapore Wind Symphony จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “Lowering Barriers: Exploring AI’s Role in Creative Access Through Music-Making” ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อแบ่งปันความรู้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และแนวปฏิบัติร่วมสมัยในการประยุกต์ใช้ AI ในกระบวนการประพันธ์ดนตรี กิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดพื้นที่การเรียนรู้แบบสหวิทยาการระหว่างศิลปะและเทคโนโลยี สะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันของทั้งสองมหาวิทยาลัยในการเตรียมความพร้อมให้กับนิสิตและนักวิจัยรุ่นใหม่ในการใช้ AI อย่างสร้างสรรค์ มีจริยธรรม และสอดคล้องกับบริบททางวัฒนธรรม

          ทั้งนี้คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ยังได้รับความร่วมมือจาก Mr.Duncan Bass ภัณฑารักษ์ประจำ Singapore Art Museum (SAM) บรรยายในหัวข้อเรื่อง “Proof of Personhood: On Technologies of Human Recognition” ซึ่งให้ความสำคัญเช่นกันกับความสามารถของ AI ในการ “ตีความ” และผลลัพธ์ของเทคโนโลยีสมัยในการคัดกรอง ควบคุมการเปิดเผยตัวตน และควบคุมสิ่งที่สังคมเลือกจะมองเห็น การทำความเข้าใจประเด็นดังกล่าวจะช่วยให้สังคมวิพากษ์และออกแบบอนาคตของการรับรู้อย่างมีจริยธรรม และเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่เคยเป็นกลุ่มชายขอบได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมอย่างเท่าเทียม

          การประชุมวิชาการนานาชาติ AI ด้านศิลปกรรมในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจและวิสัยทัศน์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ในการขับเคลื่อนองค์ความรู้สหวิทยาการระหว่างศิลปะและเทคโนโลยี พร้อมทั้งเสริมสร้างบทบาทของสถาบันอุดมศึกษาในการวางทิศทางเชิงนโยบายด้านศิลปกรรมในยุคดิจิทัลอย่างมีวิจารณญาณ จริยธรรม และเคารพในความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่นิสิต อาจารย์ และนักวิจัย ในการใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือแห่งการสร้างสรรค์ในโลกอนาคต

• Facebook
• Twitter
• Line