คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมลงนาม MOU จัดประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติด้านการสื่อสาร

9 กรกฎาคม 2568

คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการจัดประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติด้านการสื่อสาร ร่วมกับคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาคมวิชาการนิเทศศาสตร์และการสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย สภาสถาบันนักวิชาการสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย และสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุม ดร.เทียม โชควัฒนา คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ โดยมี รศ.ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวเปิดงาน

ในงานมีการเสวนาในหัวข้อ “สร้างองค์ความรู้ เชื่อมนิเวศสื่อ” เพื่อนำเสนอบทบาทและความจำเป็นของความร่วมมือทางวิชาการในการรับมือกับการเปลี่ยนผ่านของนิเวศสื่อ การพัฒนาองค์ความรู้และงานวิจัยที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมและสังคมร่วมสมัย โดยเฉพาะในประเด็นด้านความเท่าทันสื่อ สื่อสร้างสรรค์และการสื่อสารเพื่อการเปลี่ยนแปลง วิทยากรในการเสวนา ประกอบด้วย รศ.ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ผศ.ดร.อัจฉรา ปัณฑรานุวงศ์ คณบดีคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รศ.ดร.อัศวิน เนตรโพธิ์แก้ว คณบดีคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ผศ.ดร.สุเทพ เดชะชีพ นายกสมาคมวิชาการนิเทศศาสตร์และการสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย รศ.สุรสิทธิ์ วิทยารัฐ ประธานสภาสถาบันนักวิชาการสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย คุณรติ พันธุ์ทวี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ดำเนินรายการโดย ดร.ประวีณมัย บ่ายคล้อย

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในครั้งนี้ เป็นการสานต่อความร่วมมือระยะยาวที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 ของการจัดประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติด้านการสื่อสาร ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านการสื่อสารให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี วัฒนธรรม และโครงสร้างอุตสาหกรรม ตลอดจนสร้างสะพานเชื่อมระหว่างวิชาการกับภาควิชาชีพ เพื่อร่วมกันผลักดันพลังของสื่อให้เป็นพลังบวกของสังคม

รศ.ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า “การสื่อสารในวันนี้ไม่ใช่เพียงเครื่องมือส่งสาร แต่คือพลังในการสร้างอัตลักษณ์ ความสัมพันธ์ และประสบการณ์ร่วมของผู้คน สื่อกลายเป็นพื้นที่แห่งความหมาย ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน ขณะที่เทคโนโลยีอย่าง AI กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมและวิถีชีวิตของเราอย่างลึกซึ้ง ในบริบทเช่นนี้ การศึกษาไม่เพียงมีบทบาทในการถ่ายทอดความรู้ แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนวาระสาธารณะ และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริง ความร่วมมือทางวิชาการจึงควรเกิดขึ้นอย่างยืดหยุ่น เป็นธรรมชาติ และเปิดกว้างต่อพันธมิตรใหม่ ๆ ที่ร่วมแบ่งปันความเชื่อเดียวกันในการสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืนผ่านพลังของการสื่อสาร”