รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
ข่าวสารจุฬาฯ
29 ตุลาคม 2568
ข่าวเด่น
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – ท่ามกลางกระแสการถกเถียงเรื่อง “ความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก” ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ งานวิจัยจากประเทศไทยกำลังจะกำหนดนิยามใหม่ของ “ความเป็นผู้นำ” ดร.ดรูว์ บี. มัลลอรี (Dr. Drew B. Mallory) อาจารย์และนักวิจัยจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin School of Management) ได้เปิดเผยงานวิจัย “T*Factor” ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดเชิงปฏิวัติที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกไม่เคยปรากฏมาก่อนเกี่ยวกับศักยภาพความเป็นผู้นำของมืออาชีพที่เป็นทรานส์เจนเดอร์และนอนไบนารี (ทรานส์*)
งานวิจัยนี้ไม่ใช่แค่บทความทางวิชาการทั่วไป หากแต่เป็นการศึกษาครั้งแรกของโลกในหลายๆ แง่มุม ทั้งเป็นการวิจัยเชิงลึกครั้งแรกของผู้นำทรานส์* ทั่วโลก และเป็นครั้งแรกที่มุ่งเน้นไปที่มืออาชีพที่เป็นทรานส์ ในประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับบริบทของประเทศไทยโดยเฉพาะ ดร.มัลลอรีกล่าวว่า ผลการวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นของผู้นำทรานส์* ได้แก่ ความยืดหยุ่น ความเห็นอกเห็นใจอย่างลึกซึ้ง และความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence: EQ) ซึ่งหล่อหลอมให้เกิดแนวทางความเป็นผู้นำแบบองค์รวม ที่ประสานสติปัญญาเข้ากับปัญญาทางอารมณ์อย่างสมดุล
“งานวิจัยนี้ไม่เพียงช่วยยกระดับความเข้าใจทั่วไปเกี่ยวกับผู้นำเท่านั้น แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ต่อประสบการณ์ชีวิตของกลุ่มคนที่มักถูกมองข้าม” ดร.มัลลอรีกล่าว “ศศินทร์ในฐานะสถาบันการศึกษาที่ริเริ่มต่อโครงการ IDEALS ทำให้การศึกษานี้เกิดขึ้นได้ และยังเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า Inclusion ไม่ใช่เพียงเรื่องจริยธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและประสิทธิภาพขององค์กรได้อย่างแท้จริง”
โครงการ IDEALS (Inclusion, Diversity, Equity, and Access to Learning at Sasin) ที่ศศินทร์เชื่อว่าการศึกษาและธุรกิจที่ไม่แบ่งแยกคือรากฐานแห่งความเป็นเลิศและการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ในยุคที่กระแสต่อต้านทรานส์* ทวีความรุนแรงในบางภูมิภาคของโลก “T*Factor” จึงกลายเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณค่าและศักยภาพของผู้นำทรานส์ ที่มีต่อองค์กรและสังคมในมุมมองที่สร้างสรรค์และทรงพลัง
T*Factor: ความเป็นผู้นำที่หล่อหลอมจากความยืดหยุ่น
งานวิจัย “T*Factor” เกิดจากการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้นำทรานส์ 16 คนจากหลากหลายภาคส่วนในประเทศไทย เพื่อทำความเข้าใจว่าพวกเขาใช้ประสบการณ์ชีวิตและอัตลักษณ์ที่ซับซ้อนในการสร้างเส้นทางสู่ความเป็นผู้นำอย่างไร กรอบแนวคิดนี้แสดงให้เห็นว่า ความเป็นผู้นำของทรานส์* ชาวไทยได้รับอิทธิพลจากองค์ประกอบทางวัฒนธรรม พฤติกรรม และคุณค่าภายในที่ผสมผสานกันอย่างลึกซึ้ง
ผู้นำทรานส์* เหล่านี้แสดงให้เห็นถึง “ความยืดหยุ่นที่ไม่แตกหัก” ซึ่งไม่ได้เกิดจากการเอาชนะอุปสรรคเพียงอย่างเดียว แต่จากการเปลี่ยนความท้าทายทางวัฒนธรรมให้กลายเป็นพลังแห่งการเติบโต ภายใต้กรอบความเชื่อแบบไทย เช่น “กรรม” หรือ “เกรงใจ” พวกเขาได้สร้างสมดุลระหว่างการรักษาความสุภาพอ่อนน้อมกับการยืนยันคุณค่าของตนเองอย่างมั่นคง ความจริงใจเชิงสัมพันธ์ของผู้นำเหล่านี้จึงเป็นเสมือน “ความฉลาดทางวัฒนธรรม” ที่ทำให้พวกเขาสามารถเคลื่อนไหวในบริบทสังคมไทยอย่างชาญฉลาดและมีศักดิ์ศรี ประสบการณ์ของการถูกกีดกันยังหล่อหลอมให้ผู้นำทรานส์* มีความเห็นอกเห็นใจอย่างลึกซึ้งและมี EQ สูง พวกเขาสามารถสื่อสารอย่างละเอียดอ่อน รักษาสมดุลระหว่างความตรงไปตรงมากับความเข้าใจผู้อื่น และสร้างความสัมพันธ์แบบ “ครอบครัวที่เลือก” (chosen family) ในที่ทำงานแทนโครงสร้างลำดับชั้นแบบดั้งเดิม หลายคนมองว่าความเป็นผู้นำของตนเองคือการเคลื่อนไหวทางสังคมอย่างหนึ่ง โดยมุ่งหวังที่จะสร้างความเท่าเทียมและการเป็นตัวแทนในทุกมิติของสังคม
ประเทศไทย: แสงสว่างแห่งความเป็นผู้นำที่ครอบคลุมไม่แบ่งแยก
เส้นทางของประเทศไทยสู่การไม่แบ่งแยกมีรากฐานทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและโดดเด่น แตกต่างจากหลายประเทศตะวันตกที่ยังถกเถียงเรื่องการยอมรับบุคคลทรานส์* สังคมไทยมีประวัติศาสตร์ของความหลากหลายทางเพศที่หยั่งรากมาหลายศตวรรษ ทั้งจากอิทธิพลของประเพณีพื้นบ้านและพุทธศาสนา คำว่า “กะเทย” ในภาษาไทยดั้งเดิมเองก็เคยหมายถึง “เพศที่สาม” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในอัตลักษณ์ที่เกินกว่าขอบเขตของชายและหญิงมาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังชี้ให้เห็นถึง “ความขัดแย้งของความอดทน” ในขณะที่ประเทศไทยได้รับการยกย่องว่าเปิดกว้างต่อ LGBTQI+ แต่การยอมรับนั้นยังคงควบคู่ไปกับการตีตราเชิงวัฒนธรรม การเลือกปฏิบัติอย่างแฝง และการขาดการคุ้มครองทางกฎหมายที่เพียงพอ ข้อมูลจาก UNDP ปี 2562 ระบุว่า แม้ 88% ของคนไทยยอมรับบุคคล LGBTQI+ นอกครอบครัว แต่มีเพียง 75% ที่ยอมรับเมื่ออยู่ในครอบครัวเดียวกัน และมากถึง 70% ของบุคคลทรานส์* เคยประสบปัญหาการเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน
ถึงกระนั้น ประเทศไทยยังคงก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ประเทศไทยได้ประกาศใช้ กฎหมายสมรสเท่าเทียม อย่างเป็นทางการ กลายเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศที่สองในเอเชียที่ให้สิทธิสมรสเพศเดียวกัน กฎหมายฉบับนี้ไม่เพียงเป็นชัยชนะทางสิทธิมนุษยชน แต่ยังนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาล จากการศึกษาของ Agoda ในปี 2025 คาดว่าการเปิดรับความหลากหลายนี้จะสร้างงานกว่า 152,000 ตำแหน่ง เพิ่ม GDP ราว 0.3% และดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 4 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม การไม่แบ่งแยกอย่างแท้จริงยังต้องอาศัยความก้าวหน้าทางนโยบายเพิ่มเติม โดยเฉพาะการออก ร่างพระราชบัญญัติรับรองเพศ ซึ่งจะช่วยให้บุคคลทรานส์* สามารถใช้ชื่อและเพศตามอัตลักษณ์ของตนในเอกสารราชการได้อย่างถูกต้อง ผู้เข้าร่วมการศึกษาหลายคนสะท้อนว่า “การรับรองเพศทางกฎหมายสำคัญยิ่งกว่าการสมรสเท่าเทียมเสียอีก” การมีกฎหมายดังกล่าวจะช่วยให้ประเทศไทยก้าวพ้นจาก “ความอดทน” ไปสู่ “การไม่แบ่งแยกที่แท้จริง” ซึ่งสอดคล้องกับรากวัฒนธรรมไทยและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล
การเรียกร้องสู่การเปลี่ยนแปลงระดับโลก
ในยุคที่แนวคิดด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก (Diversity, Equity, Inclusion: DEI) กำลังเผชิญความท้าทาย “T*Factor” ได้เสนอคำตอบเชิงกลยุทธ์ที่มีพลังต่อองค์กรทั่วโลก ดร.มัลลอรี ชี้ให้เห็นว่า การเข้าใจและสนับสนุนศักยภาพของผู้นำทรานส์ ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นด้านความยืดหยุ่น ความเห็นอกเห็นใจ และการสื่อสารที่เปี่ยมพลัง จะช่วยให้องค์กรสร้างนวัตกรรมและความยั่งยืนได้มากขึ้น
นอกจากนี้ งานวิจัยยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีโครงการพัฒนาและการให้คำปรึกษาเฉพาะทาง สำหรับผู้นำทรานส์* เพื่อสร้างโอกาสเท่าเทียมกับผู้นำกลุ่มอื่น ๆ ศศินทร์และพันธมิตรได้ร่วมกันพัฒนา “ชุดเครื่องมือการไม่แบ่งแยกสำหรับประเทศไทย (Thailand Inclusion Toolkit)” ซึ่งรวมแนวทางเชิงนโยบายและการอบรมที่ปรับให้เข้ากับบริบททางวัฒนธรรมไทย เพื่อช่วยองค์กรต่าง ๆ ส่งเสริมความครอบคลุมอย่างแท้จริง
คุณนิกกี้ ภิญญาปิญชาน์ ผู้ก่อตั้ง TransTalents Consulting Group และผู้ร่วมงานกับ ดร.มัลลอรี กล่าวว่า “งานวิจัยนี้ไม่เพียงยืนยันประสบการณ์ชีวิตของมืออาชีพทรานส์* แต่ยังช่วยรื้อถอนภาพเหมารวมที่ขัดขวางศักยภาพของพวกเขา การลงทุนในความสามารถของบุคคลทรานส์* ไม่ใช่แค่การกระทำทางจริยธรรมขององค์กร แต่คือการปลดล็อกพลังแห่งนวัตกรรมที่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมได้จริง”
ศศินทร์: ศูนย์กลางของความเป็นผู้นำที่ครอบคลุมไม่แบ่งแยก
“T*Factor” สะท้อนถึงบทบาทของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาผู้นำธุรกิจที่ครอบคลุมและยั่งยืน งานวิจัยนี้เป็นหนึ่งในโครงการแรกที่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของโครงการ IDEALS และแสดงให้เห็นว่าการมุ่งเน้นเรื่องความเท่าเทียมและการไม่แบ่งแยกสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมได้
ด้วยการเปิดเผยศักยภาพของผู้นำทรานส์* ชาวไทย ที่เปลี่ยนข้อจำกัดเชิงระบบให้เป็นพลังแห่งความสร้างสรรค์ ศศินทร์ได้แสดงให้เห็นว่าความครอบคลุมและไม่แบ่งแยกไม่เพียงทำให้สังคมมีความเท่าเทียมกันเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางความเป็นผู้นำระดับโลกที่แท้จริง
อ่านงานวิจัยฉบับเต็มได้ที่นี่
“PMCU CAREERS CONNECT” ครั้งแรกการรวมตัวบริษัทชั้นนำครั้งยิ่งใหญ่ เปิดโลกการทำงานจริงเพื่อนิสิตจุฬาฯ
จุฬาฯ เชิญชวนร่วมงานลอยกระทงจุฬาฯ 2568
วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.00 – 22.00 น. ณ บริเวณสระน้ำจุฬาฯ และลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า
บริเวณสระน้ำจุฬาฯ และลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า
จุฬาฯ เชิญรับชมการถ่ายทอดสดงานเสวนา President’s Distinguished Talk ครั้งที่ 6 โดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา
20 พ.ย. 68
เชิญฟัง “Talking Arts: อักษรศาสตร์ชวนคุย” ชุดพิเศษ “ธีรราชอักษรศาสตร์พิจารณ์” เดือนพฤศจิกายน 2568
บัลลังก์ ทับทิมแดง นิสิตนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ คว้าเหรียญทองเทควันโดชิงแชมป์โลก 2025 รุ่น 68 กก.
จุฬาฯ พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจําปี 2568 ณ วัดมหาพฤฒาราม
จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ สนับสนุนให้อาจารย์ทำงานวิจัย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อทั้งอาจารย์ นิสิต รวมถึงภาคประชาสังคม
รองศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้