รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
ข่าวสารจุฬาฯ
14 พฤศจิกายน 2568
ข่าวเด่น
จากกรณีที่ยาดมหงส์ไทย สูตร 2 ล็อตการผลิตหมายเลข 332 ถูกตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์เกินมาตรฐาน รวมถึงเชื้อก่อโรคคลอสทริเดียม จนสร้างความตื่นตระหนกในวงกว้าง รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ ภาควิชาอาหารและเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลถึงสาเหตุ ความเสี่ยง และแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยอธิบายว่า การพบเชื้อคลอสทริเดียมในยาดมไม่ใช่เรื่องแปลกอย่างที่คิด เนื่องจากเชื้อดังกล่าวมีถิ่นอาศัยตามธรรมชาติในดิน ซึ่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรส่วนใหญ่มาจากพืชที่ปลูกในดิน จึงมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ รวมทั้งแบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์ชนิดต่างๆได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการควบคุมปริมาณเชื้อเหล่านี้ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคจนวันสิ้นอายุของผลิตภัณฑ์“ในความเป็นจริงยาทุกชนิดที่เราใช้ ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดพาราเซตามอลหรือยาดม ล้วนมีเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนอยู่แล้ว แต่อยู่ในปริมาณที่น้อยจนไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย กฎหมายจึงกำหนดมาตรฐานว่าเชื้อเหล่านี้ควรมีไม่เกินปริมาณเท่าใด และเชื้อก่อโรคบางประเภทที่เป็นอันตรายจะต้องไม่พบเลย ดังนั้นผู้ผลิตมีหน้าที่ควบคุมและลดปริมาณเชื้อให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ” รศ.ภก.ดร.บดินทร์ กล่าว
รศ.ภก.ดร.บดินทร์ กล่าวถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาดมที่ปนเปื้อนเชื้อว่า สำหรับคนทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรง ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถจัดการกับเชื้อในปริมาณน้อยได้ อันตรายจะเกิดขึ้นกับกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน ซึ่งหากมีการปนเปื้อนเชื้อในปริมาณสูง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจได้ โดยมีอาการที่อาจพบ ได้แก่ การระคายเคือง แพ้ หรือติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งอาจลุกลามไปถึงปอดได้ในรายที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ระยะเวลาในการแสดงอาการขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อและสภาวะของผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งในคนที่มีสุขภาพแข็งแรงนั้น ยังสามารถใช้ยาดมท่ได้มาตรฐานได้ตามปกติ แต่ควรเลือกใช้อย่างระมัดระวัง เลือกผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบเลขขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาไม่นาน ส่วนบุคคลในกลุ่มเสี่ยง ยิ่งควรเลือกใช้ยาดมให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อร่างกาย และผู้ใช้ยาดมไม่ควรเก็บใช้งานจนกลิ่นหมด เพราะหลังเปิดใช้งานแล้วอาจมีการปนเปื้อนเชื้อต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ ควรจัดเก็บอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการปนเปื้อนด้วย“เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงปัญหาโครงสร้างที่สำคัญของอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย แม้ว่ายาสมุนไพรไทย โดยเฉพาะยาดม กำลังกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ยังมีจุดอ่อนหลายประการที่ต้องพัฒนาอย่างจริงจัง ปัญหาหลักมาจากข้อจำกัดในองค์ความรู้ของผู้ประกอบการบางราย ต้นทุนการผลิตที่สูง และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ไม่เอื้อต่อการผลิตอย่างมีมาตรฐาน เช่น การเก็บพืชสมุนไพรแห้ง หากไม่มีการทำความสะอาด ล้าง และอบแห้งอย่างดี เชื้อจุลินทรีย์จะยังคงอยู่และสามารถเจริญเติบโตได้ การควบคุมสุขอนามัย การใช้เทคโนโลยีในการลดปริมาณเชื้อ และการรักษามาตรฐานการผลิตที่ดี ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ แต่ผู้ประกอบการบางรายอาจขาดความชำนาญหรือมีข้อจำกัดด้านต้นทุนในการลงทุนเทคโนโลยีเหล่านี้” รศ.ภก.ดร.บดินทร์ กล่าวถึงปัญหาที่ต้องพัฒนาในอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย
รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ชี้ให้เห็นถึงประเด็นสำคัญว่า เทคโนโลยีการฉายรังสี สามารถลดปริมาณเชื้อหรือฆ่าเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องมือแพทย์อยู่แล้ว แต่ในประเทศไทยต้นทุนการฉายรังสีมีราคาสูงมาก และมีสถานที่ให้บริการไม่กี่แห่ง หากมีผู้ประกอบการหลายสิบหรือหลายร้อยรายต้องการใช้บริการ ก็จะต้องเข้าคิวรอเป็นเวลานาน ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งจะแก้ไขได้เอง แต่เป็นปัญหาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ต้องอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล็งเห็นว่าต้องผลักดันให้รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านนี้ เพราะเชื่อว่าหากภาครัฐให้การสนับสนุน จะทำให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยมีคุณภาพดีขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่ผู้ประกอบการต้องพัฒนาเพิ่มเติมด้วยเช่นกันรศ.ภก.ดร.บดินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาอีกประการหนึ่งคือ วิธีการตรวจเชื้อในยาสมุนไพร มีความแตกต่างจากการตรวจเชื้อในสิ่งแวดล้อมหรืออาหารทั่วไป ผู้ประกอบการบางรายอาจมีการตรวจเชื้อก่อนส่งออกและพบว่าไม่มีปัญหา แต่หากวิธีการตรวจไม่เหมาะสม ผลที่ได้อาจไม่สะท้อนความปลอดภัยอย่างแท้จริง นอกจากนี้ แม้ผลิตภัณฑ์ใหม่จะผ่านการตรวจเชื้อแล้ว แต่หากเก็บไว้ 2-3 ปี เชื้อก็อาจเจริญเติบโตขึ้นได้ หากไม่มีการจัดเก็บและออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม รวมทั้งถ้าไม่มีการศึกษาเรื่องความคงตัวของผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง ดังนั้นผู้บริโภคจึงต้องเลือกใช้ยาดมให้เหมาะสม หากเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงปกติ สามารถใช้ยาดมได้โดยไม่ต้องกังวลมากจนเกินไป แต่ควรมีวิธีการเลือกใช้ให้ถูกต้อง โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเลขขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยา เลือกผู้ประกอบการที่น่าเชื่อถือ และแม้ว่ายาดมจะมีราคาไม่แพง แต่ควรเปลี่ยนใหม่เป็นระยะ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุดรศ.ภก.ดร.บดินทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สมุนไพรไทยเป็นทรัพยากรและจุดแข็งของประเทศที่สามารถพัฒนาต่อยอดเชิงธุรกิจและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้ ทั้งภาคการศึกษาและรัฐบาลต้องร่วมมือกันพัฒนาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน การถ่ายทอดองค์ความรู้ และการยกระดับมาตรฐานการผลิต เพื่อให้สมุนไพรไทยสามารถเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่แข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืนและปลอดภัยต่อผู้บริโภคทุกกลุ่ม
ติดตามรับชมการให้สัมภาษณ์เรื่อง “ยาดมปนเปื้อน” อันตรายที่สูดดมไม่เห็น ได้ที่ https://youtu.be/TL3BSGiMxCs?si=EtBvYCr_R9mrPu00
จุฬาฯ ลงนามบันทึกความเข้าใจหลักสูตรควบสองปริญญา Chula LGO กับภาคอุตสาหกรรมผู้ให้การสนับสนุน
จุฬาฯ ร่วมจัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติเรื่องเซลล์แสงอาทิตย์ ครั้งที่ 36 แลกเปลี่ยนและเผยแพร่ความรู้เทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน
จุฬาฯ เปิดเวทีเสวนา “From Farm to Facts : คุณภาพนมไทยพิสูจน์ได้ โดยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาฯ
วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 – 12.00 น. ที่ห้อง Sci Space ชั้น 1 อาคารแถบ นีละนิธิ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
ห้อง Sci Space ชั้น 1 อาคารแถบ นีละนิธิ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
จุฬาฯ – CEA เปิดหลักสูตร “CreativEX 2025” ต่อยอดผู้นำเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย พร้อมดัน Soft Power สู่เวทีโลก
จุฬาฯ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการกับ สสปท. และสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ สู่มาตรฐานความปลอดภัยที่ยั่งยืน
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเปิดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 51
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้ ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ มีลักษณะของความเป็นพี่น้อง ความอบอุ่น เป็นสังคมที่อยากอนุรักษ์ไว้
ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้