รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
Highlights
27 พฤษภาคม 2568
ผู้เขียน ภัทรพร รักเปี่ยม
จุฬาฯ ร่วมมือ The Ocean Cleanup และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งนำร่องใช้เทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพและ AI วิเคราะห์ปริมาณขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผลักดันนโยบายการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในภาคพื้นดินและในแหล่งน้ำ
หากคุณคิดว่าขยะที่คุณทิ้งในวันนี้ จะหายไปจากชีวิตตลอดกาล คุณอาจต้องคิดใหม่
“จากการตรวจสอบฉลากของขยะพลาสติกที่พบบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา เราพบขยะที่มีอายุย้อนไปถึง 10 ปี!” ศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ เผยข้อค้นพบจากโครงการวิจัยกำจัดขยะพลาสติกจากแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ ที่นักวิจัยจุฬาฯ ใช้กล้องและเทคโนโลยี AI ดักและติดตามขยะในแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งแต่ปี 2564 ถึง 2567
“ปัจจุบัน ประเทศไทยติดอันดับ Top 10 ของโลก ด้านการจัดการขยะที่ไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดมลพิษทางทะเลในระดับสูง” ศ. ดร.สุชนากล่าว
ที่ผ่านมา หลายองค์กรและภาคส่วนต่าง ๆ ได้พยายามรณรงค์สร้างจิตสำนึก ออกแนวนโยบายและมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดและกำจัดขยะทั้งในภาคพื้นดินและในน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อลดขยะในทะเล โครงการนำร่องล่าสุดก็เช่นกัน โครงการวิจัยกำจัดขยะพลาสติกจากแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ” เป็นความร่วมมือระหว่างจุฬาฯ สถานทูตประเทศเนเธอร์แลนด์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรุงเทพมหานคร และภาคเอกชน ภายใต้การดำเนินงานของ The Ocean Cleanup องค์กรไม่แสวงหากำไรด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีเป้าหมายในการสำรวจปริมาณขยะในมหาสมุทรทั้ง 5 แห่งของโลก โดยทีมงานในโครงการฯ ประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักออกแบบ และอาสาสมัคร ที่ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อจัดการปัญหาขยะในทะเล
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งคาดการณ์ปริมาณขยะทะเล โดยรวบรวมข้อมูลปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนและสัดส่วนของการจัดการขยะรายจังหวัดในพื้นที่่ติดชายฝั่่งทะเลจำนวน 23 จังหวัด ผลการประเมินในปี 2565 พบว่ามีปริมาณขยะมูลฝอยเกิดขึ้นรวม 11.60 ล้านตัน ในจำนวนนี้เป็น “ขยะพลาสติก” ราว 302,389 ตัน (หรือ 0.30 ล้านตัน) ซึ่งร้อยละ 10 -15 ของขยะพลาสติกเหล่านี้้มีโอกาสตกค้างบริเวณชายหาดและถูกพัดพาลงทะเล กลายเป็น “ขยะทะเล” ราว 30,239-45,358 ตัน หรือประมาณ 0.03-0.45 ล้านตัน
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ดำเนินการบริหารจัดการขยะทะเลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึก ช่วยลดปริมาณขยะในทะเลและชายฝั่ง รวมถึงป้องกันการเกิดขึ้นใหม่ของขยะทะเล โดยจัดเก็บขยะตกค้างในระบบนิเวศที่สำคัญ ระบบนิเวศชายหาด ปะการัง และป่าชายเลน 21 จังหวัดชายฝั่ง แบบมีส่วนร่วมผ่านเครือข่ายภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน และอื่น ๆ แต่ขยะมูลฝอยและขยะพลาสติกก็ยังคง “ลอยนวล” อยู่ในแหล่งน้ำและท้องทะเล ซึ่งหากไม่จัดการปัญหาขยะในแหล่งน้ำ จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์น้ำ เสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ทั้งการประมงและท่องเที่ยว และกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในระยะยาว
ศ. ดร.สุชนากล่าวว่าในโครงการวิจัยกำจัดขยะพลาสติกจากแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ ทีมนักวิจัยจากจุฬาฯ รับหน้าที่ศึกษาและเก็บข้อมูลปริมาณขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ปี 2564 จนถึง 2567 โดยมีเป้าหมายเพื่อวิเคราะห์ปริมาณขยะที่ไหลลงสู่ทะเล และศึกษาประสิทธิภาพของเรือเก็บขยะระบบอัตโนมัติแบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Interceptor) ในการลดขยะก่อนที่จะออกสู่มหาสมุทร
“ทีมนักวิจัยจุฬาฯ ติดตั้งกล้องตรวจจับขยะบริเวณสะพานสำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สะพานอรุณอมรินทร์ และสะพานภูมิพล ซึ่งเป็นจุดที่ขยะจากต้นน้ำจะไหลผ่าน กล้องเหล่านี้จะบันทึกภาพทุก 15 นาที เพื่อให้สามารถติดตามปริมาณขยะได้ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการสังเกตด้วยตาเปล่า” ศ. ดร.สุชนาอธิบายการเก็บภาพและวิเคราะห์ข้อมูลขยะ
“จากนั้น AI ของ The Ocean Cleanup จะช่วยประมวลผลภาพถ่าย วิเคราะห์ปริมาณและประเภทของขยะที่ลอยผ่านใต้สะพาน พร้อมทั้งติดตามเส้นทางการเคลื่อนที่ของขยะ และประเมินประสิทธิภาพของเครื่องดักขยะว่าดักขยะได้มากน้อยเพียงใด”
ศ. ดร.สุชนาเผยผลการศึกษาเบื้องต้นว่า “ขยะพลาสติก” ยังคงเป็นขยะหลักที่พบในแม่น้ำเจ้าพระยา และการใช้เครื่องดักขยะพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยลดปริมาณขยะที่ไหลลงทะเลได้อย่างมีนัยสำคัญ
“เรือดักขยะสามารถเก็บขยะได้สูงถึง 6-7 ตัน โดยมีข้อจำกัดที่ปริมาตรของขยะมากกว่าน้ำหนัก ปกติแล้วเรือจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วันในการเก็บจนเต็ม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตก หลังจากนั้น ขยะที่รวบรวมได้จะถูกนำไปคัดแยกและกำจัดอย่างถูกต้องตามขั้นตอน”
ปริมาณการเก็บขยะดังกล่าวนับว่าช่วยลดปริมาณขยะในแหล่งน้ำอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปีแรกของการดำเนินโครงการ เรือดักขยะสามารถรวบรวมขยะได้มากถึง 185 ตัน หรือเฉลี่ยประมาณ 500 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่ง ศ. ดร.สุชนาหวังและเชื่อมั่นว่าหากผลการวิเคราะห์การดักและติดตามขยะเสร็จสมบูรณ์ น่าจะได้แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดขยะได้เพิ่มขึ้น โดยในเบื้องต้นข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ด้วย AI จะถูกนำไปใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งมีเป้าหมายดำเนินโครงการต่อเนื่องไปอีก 3 ปี
“ผลการศึกษานี้จะเป็น “ฐานข้อมูลสำคัญ” ที่สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาแผนจัดการขยะในแม่น้ำเชิงระบบให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยให้เราสามารถวางนโยบายการจัดการขยะที่แม่นยำและยั่งยืนมากขึ้น ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ เช่น ระบุจุดที่มีการทิ้งขยะมากเพื่อนำไปวางแผนป้องกัน พัฒนานโยบายหรือมาตรการลดการทิ้งขยะลงน้ำ หรือส่งเสริมการจัดการขยะต้นทางในชุมชน ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว” ศ. ดร.สุชนากล่าวและเสริมว่า “การใช้เทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพและ AI จะช่วยให้เราระบุจุดที่ยังต้องการการจัดการขยะ ไม่ว่าจะมีเครื่องดักขยะหรือไม่ และยังช่วยประเมินประสิทธิภาพของโครงการจัดการขยะที่มีอยู่ของภาครัฐและเอกชนได้อีกด้วย”
สุดท้ายแล้ว “ปัญหาขยะ” ไม่มีพรมแดน ทุกภาคส่วนจึงต้องตระหนักและร่วมกันแก้ไข
“การแก้ปัญหาขยะเป็นความรับผิดชอบของทุกภาคส่วน ความร่วมมือจากต่างชาติที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นภาพว่าขยะที่เราคิดว่าอยู่เพียงในประเทศ อาจถูกพัดพาออกสู่ทะเลและกระทบต่อประเทศอื่น ดังนั้น การจัดการขยะจึงไม่ใช่เพียงปัญหาระดับชาติ แต่เป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกประเทศต้องร่วมมือกัน” ศ. ดร.สุชนา กล่าวทิ้งท้าย
พิพิธภัณฑ์พืช จุฬาฯ เก็บรักษาสภาพพันธุ์พืชทั่วไทย คลังความรู้ ต่อยอดยา ไขปริศนาคดีอาชญากรรม
ตรวจสอบวัสดุอุดตันท่อในอาคารด้วยรังสีแกมมา ช่องทางธุรกิจ วิศวกรนิวเคลียร์และรังสี จุฬาฯ
นักวิจัย จุฬาฯ พัฒนา “ปะการังสู้โลกร้อน” เพื่อทางรอดระบบนิเวศทางทะเล
ปฏิบัติการ “ชี้โพรง” สแกนสุขภาพต้นไม้ด้วยรังสีแกมมา
เปิดตัวตำราอาหาร “สุขภาพดี วิถีสำรับไทย” จับคู่เมนูเด็ด อร่อยคงเอกลักษณ์ ครบถ้วนโภชนาการ
จุฬาฯ แนะนำทุนสำหรับนิสิตปริญญาตรี สร้างโอกาสการศึกษาและคุณภาพชีวิต
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้