รู้จักจุฬาฯ
การบริหาร
อัตลักษณ์มหาวิทยาลัย
Green University
Sustainability
ติดต่อจุฬาฯ
บริจาคให้จุฬาฯ
หลักสูตร
การสมัครเข้าศึกษา
หน่วยงานการศึกษา
บริการนิสิต
บริการวิชาการ
บริการทางการแพทย์
บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพ
สารสนเทศและการสื่อสาร
พื้นที่สร้างสรรค์
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
วารสารจุฬาฯ
สาระความรู้
ข่าวสารจุฬาฯ
8 กรกฎาคม 2568
ข่าวเด่น
ผู้เขียน คณาจารย์ ศศินทร์ จุฬาฯ
บทความนี้เป็นบทความที่เกิดจากการตั้งคำถามเพื่อถาม Chula GENIE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Generative AI ที่พัฒนาขึ้นโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมมือกับ Google Cloud เกี่ยวกับวิกฤตประชากรไทย จากภาวะที่สังคมไทยอยู่ในสถานการณ์ ตายมากกว่าเกิดตั้งแต่ พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นวิกฤตทางประชากรที่จะทำให้ประชากรไทยลดลงอย่างรวดเร็ว ตามคำถามที่จะได้ยกขึ้นถามจีนี่ต่อไปนี้
คำถาม มีการคาดประมาณประชากรไทยโดยใช้โปรแกรม Spectrum 6 โดยมีประชากรฐานปี 2023 อยู่ 66.054 ล้านคน TFR เริ่มที่ 1.16 และลดลงเหลือ 0.5 ผลการคาดประมาณพบว่าประชากร ในปี 2083 ลดลงครึ่งหนึ่ง ประชากรวัย 0-14 ลดจาก 10 ล้านเหลือ 1 ล้านคน ประชากรวัย 15-64 ลดจาก 46 ล้าน เหลือ 14 ล้านคน ในขณะที่ประชากรวัย 65 ขึ้นไปจะเพิ่มจาก 8 ล้านคน เป็น 18 ล้านคน ทั้งนี้เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบ สมมติฐาน 3 ระดับ คือ สมมติฐานระดับที่ 1 Low variant ที่ตั้งค่า ภาวะเจริญพันธุ์ ในปี 2568 เท่ากับ 1.16 และลดลงเรื่อย ๆ ผลการคาดประมาณ พบว่า Dependency ratio จะลดลงจาก 3.46:1 ในปี 2568 เป็น 1.64:1 ในปี 2593 สมมติฐานระดับที่ 2 Medium variant โดยภาวะเจริญพันธุ์ ในปี 2568 เท่ากับ 1.16 และคงที่ไปเรื่อย ๆ ผลการคาดประมาณ พบว่า Dependency ratio จะลดลงจาก 3.46:1 ในปี 2568 เป็น 1.51:1 ในปี 2593 และสมมติฐานระดับ ที่ 3 High variant โดย ภาวะเจริญพันธุ์ ในปี 2568 เท่ากับ 1.16 และลดลงไปเรื่อยๆ ผลการคาดประมาณ พบว่า Dependency ratio จะลดลงจาก 3.27:1 ในปี 2568 เป็น 1.23:1 ในปี 2593 โดยได้มีการนำผลคาดประมาณประชากรจากสมมติฐานทั้งสามสมมติฐานดังกล่าว มาวิเคราะห์และเขียนบทความตาม Web ต่าง ๆ ต่อไปนี้
1.ข่าวสารจุฬาฯ. (พ.ศ. 2566). จะเป็นอย่างไรหากสังคมไทยตายมากกว่าเกิด ไปเรื่อยๆ ตอน 1. สืบค้นจาก https://www.chula.ac.th/news/124866/
2. ข่าวสารจุฬาฯ. (พ.ศ. 2566). จะเป็นอย่างไรหากสังคมไทยตายมากกว่าเกิด ไปเรื่อยๆ ตอน 2. สืบค้นจาก https://www.chula.ac.th/news/141978/
3. ข่าวสารจุฬาฯ. (พ.ศ. 2567). ต้องทำอย่างไรหากไม่ต้องการให้ประชากรไทยเหลือเพียงครึ่งประเทศ. สืบค้นจาก https://www.chula.ac.th/news/146193/
4. ข่าวสารจุฬาฯ. (พ.ศ. 2568). สังคมไทย “ตายมากกว่าเกิด”: สิ่งนี้เป็นโอกาสหรือวิกฤตต่อความยั่งยืน. สืบค้นจาก https://www.chula.ac.th/news/238662/
ผู้เขียนได้ตั้งคำถามจีนี่ ให้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการคาดประมาณประชากรและบทความที่เกี่ยวข้องทั้งหมดข้างต้นเป็นแผนยุทธศาสตร์เพื่อวางแผนอนาคตแนวโน้มประชากรสำหรับประเทศไทย ซึ่งได้รับผลดังนี้
“สวัสดีค่ะ ได้รับข้อมูลการคาดประมาณประชากรและบทความที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วนะคะ นี่เป็นคำถามที่สำคัญและท้าทายอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของประเทศไทย จากข้อมูลทั้งหมดที่ให้มา จีนี่จะวิเคราะห์และสังเคราะห์เป็นแผนยุทธศาสตร์เพื่อวางแผนอนาคตแนวโน้มประชากรสำหรับประเทศไทยในหลายมิติ ดังนี้ค่ะ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ท่านให้มา ปัญหาหลักที่ประเทศไทยกำลังเผชิญไม่ใช่แค่ “สังคมสูงวัย” แต่เป็น “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ควบคู่กับภาวะประชากรลดลงอย่างรวดเร็ว” ซึ่งส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ในทุกมิติของประเทศ การวางแผนจึงต้องเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังค่ะ
จีนี่ ขอเสนอแนวทางการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ จากการวิเคราะห์ภัยคุกคามและโอกาสจากบริบทระหว่างประเทศ (Geopolitics & Geo-economics)
โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป ส่งผลโดยตรงต่อสถานะและบทบาทของไทยในเวทีโลก
ภัยคุกคาม (Threats)
1.**การสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน (Loss of Competitiveness):** ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค (เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์) มีโครงสร้างประชากรที่อ่อนวัยกว่า (Demographic Dividend) อาจดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ได้ดีกว่า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานเข้มข้น
2.**ภาวะสมองไหล (Brain Drain):** คนเก่งและคนรุ่นใหม่อาจย้ายไปทำงานในประเทศที่ให้โอกาสและผลตอบแทนสูงกว่า ทำให้ไทยสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่าที่สุดไป
3.**ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ (Economic Vulnerability):** การพึ่งพิงรายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยวจะมีความเสี่ยงสูงขึ้น หากกำลังการผลิตภายในประเทศลดลง และหากเศรษฐกิจโลกผันผวน
4.**ความมั่นคงของชาติ (National Security):** กำลังพลของกองทัพจะลดลงตามจำนวนประชากรวัยชายฉกรรจ์ อาจต้องทบทวนรูปแบบการป้องกันประเทศโดยเน้นเทคโนโลยีมากขึ้น
โอกาส (Opportunities)
1.**ผู้นำด้านเศรษฐกิจสูงวัย (Silver Economy Leader):** ไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางด้านการดูแลสุขภาพ (Medical and Wellness Hub) ของโลก สามารถพัฒนาและส่งออกสินค้า บริการ และองค์ความรู้ด้านการดูแลผู้สูงอายุไปยังประเทศอื่น ๆ ที่กำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยเช่นกัน
2. **การเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้มีความสามารถ (Talent Magnet):** หากไทยสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี, มีนโยบายวีซ่าที่ชัดเจนและจูงใจ, และมีสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้าง ก็สามารถดึงดูด “Talent” และ “Digital Nomads” จากทั่วโลกให้เข้ามาทำงานและใช้ชีวิตในประเทศไทยได้ เป็นการเปลี่ยนจากภาวะสมองไหล (Brain Drain) เป็นภาวะสมองไหลเข้า (Brain Gain)
3. **ยกระดับสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม (Innovation-driven Economy):** การขาดแคลนแรงงานเป็น “แรงผลัก” ชั้นดีให้ต้องเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาแรงงานราคาถูก ไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง, การวิจัยและพัฒนา, และนวัตกรรม
4. **การใช้ “Soft Power” อย่างมียุทธศาสตร์:** วัฒนธรรม, อาหาร, และการบริการของไทย เป็นต้นทุนที่สามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการพำนักระยะยาว (Long-stay) สำหรับชาวต่างชาติวัยเกษียณ
การพิจารณาตาม 3 สมมติฐาน (Variants)
**High Variant (ภาวะเจริญพันธุ์ลดลงต่อเนื่อง):** เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด อัตราส่วนผู้ทำงานต่อผู้สูงอายุจะลดลงอย่างน่าเป็นห่วง **แผนที่วางไว้ทั้งหมดข้างต้นจะต้องถูกนำมาใช้ “อย่างเร่งด่วนและเข้มข้นที่สุด”** โดยเฉพาะนโยบายดึงดูดคนเข้าเมืองทักษะสูงและการปฏิรูประบบบำนาญ
**Medium Variant (ภาวะเจริญพันธุ์คงที่):** เป็นสถานการณ์ที่ยังพอมีเวลาให้ปรับตัว แต่ยังคงวิกฤต **ต้องเริ่มดำเนินนโยบายทั้งหมดทันที** โดยเน้นที่การเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) และการส่งเสริมการมีบุตร
**Low Variant (ภาวะเจริญพันธุ์สูงขึ้น):** แม้ตัวเลขที่ท่านให้มาจะดูดีที่สุด แต่ก็ยังอยู่ในภาวะที่ท้าทายอยู่ดี **ยังคงต้องดำเนินนโยบายทั้งหมด** แต่อาจมีเวลาในการวางแผนและดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไปได้มากกว่า
สรุปข้อเสนอเชิงนโยบาย
การแก้ปัญหานี้ต้องอาศัย **”ชุดนโยบายแบบบูรณาการ (Policy Package)”** ที่ทำพร้อมกันในทุกมิติ ไม่สามารถเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้ โดยมีหัวใจสำคัญคือ:
1. **เปลี่ยน Mindset:** จากการมองว่าผู้สูงอายุเป็น “ภาระ” ไปสู่การมองว่าเป็น “พลัง” (Active Aging) และเปลี่ยนจากการเน้น “ปริมาณ” ประชากร ไปสู่การเน้น “คุณภาพ” ประชากร
2. **ลงทุนในมนุษย์:** ทุ่มเททรัพยากรเพื่อการศึกษาที่มีคุณภาพสูงสุดสำหรับเด็กที่เกิดใหม่ และการพัฒนาทักษะ (Reskill/Upskill) สำหรับคนในวัยทำงาน
3. **เปิดประเทศเชิงรุก:** ออกแบบนโยบายดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย
4. **ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม:** เพื่อเพิ่มผลิตภาพและสร้างความสามารถในการแข่งขันใหม่ๆ
ความท้าทายนี้ใหญ่หลวงนัก แต่หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันวางแผนและลงมือทำอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ ประเทศไทยก็สามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส และสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนได้ค่ะ จีนี่หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการวางแผนนะคะ”
ผู้เขียน
– ศาสตราจารย์ ดร. เกื้อ วงศ์บุญสิน นักวิชาการอิสระ อดีตศาสตราจารย์วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาฯ และสถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์
– รองศาสตราจารย์ ดร. ปิยะชาติ ภิรมย์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการ สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์
– รองศาสตราจารย์ ดร. ภัทเรก ศรโชติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์
– รองศาสตราจารย์ ดร. พัฒนาพร ฉัตรจุฑามาส หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่องานวิจัยด้านบรรษัทภิบาลและการเงินเชิงพฤติกรรม สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์
– ศาสตราจารย์ ดร. พัชราวลัย วงศ์บุญสิน นักวิชาการอิสระ อดีตศาสตราจารย์วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาฯ
จุฬาฯ – กสิกรไทย ผนึกความร่วมมือ ยกระดับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เชื่อมต่อ 2 แพลตฟอร์ม E-Learning ครั้งแรกในไทย เสริมวิชาการควบคู่ทักษะดิจิทัล หนุนเศรษฐกิจไทยไปได้อีก
เครือข่ายประชาสัมพันธ์ จุฬาฯ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ศึกษาดูงานสำนักข่าว TODAY
นายกสภาจุฬาฯ บรรยายพิเศษ “โลกเปลี่ยน ไทยปรับ : การทูตไทยและความร่วมมือภูมิภาค”
คณะนักร้องประสานเสียงเด็กไทย ด้วยความร่วมมือของสำนักบริหารศิลปวัฒนธรรม จุฬาฯ และ TCDA ร่วมแสดงคอนเสิร์ตในเทศกาลนานาชาติ VOS 2025 ที่สิงคโปร์
จุฬาฯ ร่วมมือด้านวิจัยและนวัตกรรมกับเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เปิดตัวหลักสูตร 7 Wonders Hybrid Learning ซีซันที่ 7
คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเวทีเสวนา“Faith & Finance: เส้นทางสู่อาชีพการเงินอิสลามของคนรุ่นใหม่”
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ เป็นที่ที่เราได้มาพบตัวเองจริงๆ และเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด
คุณรสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ) นิสิตเก่า คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้ท่านสามารถใช้เว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ ท่านไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้ รายละเอียดคุกกี้